นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์(SENA) คาดว่า บริษัทจะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในช่วงปลายเดือน ก.ค.หลังจากที่ได้หารือกับ FA แล้วเห็นว่าน่าจะเป็นจังหวะที่เหมาะสมและภาวะตลาดเอื้ออำนวย โดยคาดว่าจะสามารถสรุปราคาขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป(IPO)ภายใน 9 ก.ค.นี้ ภายหลังที่บริษัทโรดโชว์ 9 จังหวัด ซึ่งจะเริ่มในกลางเดือน มิ.ย.และเสนอขายหุ้นในกลางเดือน ก.ค.
บริษัทมีเป้าหมายกระจายหุ้น 200 ล้านหุ้น ราคาพาร์ที่ 1 บาท โดยจะนำเม็ดเงินไปใช้ในการลงทุนพัฒนาที่ดินในอนาคตเป็นหลัก ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยขณะนี้บริษัทได้ตกลงซื้อที่ดินย่านสุขุมวิท 50 จำนวน 15 ไร่ มูลค่า 200 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะพัฒนาที่ดินดังกล่าวในปี 54 เป็นโครงการคอนโดมิเนียม แต่จากนี้ไปจนกว่าจะพัฒนาบริษัทก็จะได้รับค่าเช่าราว 20 ล้านบาท/ปี
นางสาวเกษรา กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ 1.2 พันล้านบาทระดับเดียวกับปี 51 เนื่องจากด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้บริษัทหยุดแผนลงทุนตั้งแต่ปลายปี 51 โดยเลื่อนเปิดโครงการออกไป 2-3 โครงการเพื่อรักษาสภาพคล่อง จึงเป็นผลทำให้รายได้ในปีนี้ชะงักไปบ้าง
สำหรับโครงการทั้ง 3 โครงการดังกล่าวจะเริ่มทยอยเปิดตัวตั้งแต่กลางปีนี้ ได้แก่ โครงการ เดอะ นิช ตากสิน มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท จะเปิดตัวในช่วง ก.ค.นี้ เป็นคอนโดมิเนียม 190 ยูนิต ,โครงการ เดอะ ริช ลาดพร้าว 130 เนื้อที่ 10 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 900 ล้านบาท เปิดตัวในไตรมาส 4/52 หรือไตรมาส 1/53 เฟสแรกเป็นทาวน์โฮม ทั้งสองโครงการจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 53-54
และ โครงการคอมมูนิตี้มอลล์ ย่านเจริญนคร ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินข้อมูลเพื่อกำหนดรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมว่าจะเป็นลักษณะผสม คือ เป็นร้านค้าย่อย ทื่พักอาศัยด้วย ทั้งสามโครงการจะส่งผลให้รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 53 เป็น 1.7 พันล้านบาท
นางสาวเกษรา กล่าวว่า ในช่วง ม.ค.-พ.ค.52 บริษัทมีรายได้แล้ว 540 ล้านบาท และมียอดขายรอรับรู้รายได้(backlog)กว่า 400 ล้านบาท โดยมีโครงการในมือ 15 โครงการ หรือมูลค่าประมาณ 2-3 พันล้านบาทที่จะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปีนี้ถึงปี 54
"เสนาฯ เป็นหุ้นที่มีจุดเด่นของการเติบโตที่สม่ำเสมอเฉลี่ย 10-15% มาโดยตลอด และปันผลที่เราให้กับผู้ถือหุ้นถือว่าสามารถเหนือดอกเบี้ยและการลงทุนรูปแบบอื่น และเรายังมีหนี้น้อยอีกด้วย จึงน่าจะเป็นทางเลือกกับนักลงทุนได้"นางสาวเกษรา กล่าว
นายรฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การนำหุ้นเสนาฯเข้าเทรดจะเป็นที่ยอมรับและเป็นที่สนใจของนักลงทุน หลังจากที่ได้เลื่อนการเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปลายปีก่อน เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้อ ประกอบกับการที่เสนาฯ ปรับตัวหันมาทำคอนโดมิเนียมมากขึ้น ทำให้รายได้ปรับตัวได้ดีมาก
ทั้งนี้ ภายหลังจากกระจายหุ้น IPO แล้ว ครอบครัวธัญลักษณ์ภาคย์ จะถือหุ้นลดลงเหลือ 70% และยืนยันที่จะคงสถานะการถือหุ้นใหญ่และรักษาการเติบโตของบริษัทอย่างยั่งยืน ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจเริ่มกลับมาในทิศทางที่ดีขึ้นแล้ว คนกลับมาเชื่อมั่นมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากหุ้น IPO เข้าก็สร้างคตวามคึกคักให้ตลาดได้พอสมควร โดยขณะนี้ค่าพี/อีของเสนาฯ อยู่ที่ 5 เท่า ส่วนค่าพี/อีกลุ่มอยู่ที่ 7 เท่า