นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดราก้อน วัน(D1) คาดว่า การที่ราคาหุ้น D1 พุ่งแรงตามปัจจัยเทคนิค ผู้ลงทุนหันมาเล่นหุ้นเล็ก อีกทั้งช่วงนี้สภาพตลาดดีด้วย ก็อาจจะเป็นไปได้ที่กองทุนต่างชาติที่สนใจอยู่อาจจะเทขายหุ้นใหญ่ๆ ออกมาบ้างแล้วมาซื้อหุ้นเล็กเพื่อรอเวลาขายต่อ
"คิดว่าราคาที่ขึ้นมาคงสอดคล้องกับสถานการณ์รอบด้านที่ตอนนี้ Index ก็ดี กองทุนต่างชาติก็เข้ามาลงทุนตลาดหุ้นไทย หุ้นบลูชิพขึ้นเยอะ นักลงทุนก็จะมีเงินเหลือมาเข้าหุ้นเล็ก หุ้น mai ผมว่าคงหมดรอบหุ้นใหญ่ นักลงทุนหันมาหาหุ้นเล็ก หลายวันที่ผ่านมาหลายกองทุนก็ให้การตอบรับดี เพราะราคาหุ้นดีมากตอนนี้ นับเป็นโอกาสดีของบริษัท"นายจเรรัฐ กล่าว
ส่วนเรื่องการขายหุ้นเพิ่มทุนที่เหลืออีก 345 ล้านหุ้น จากทั้งหมด 800 ล้านหุ้น ยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องเร่งรีบ แม้จะผู้สนใจเพียบทั้งที่เป็นกองทุนและบุคคล แต่มั่นใจจบภายในเม.ย.53 ตามที่ขอมติจากผู้ถือหุ้นไว้
"มีเป็นร้อยๆ เลยที่มาขอซื้อหุ้น แต่เรายังไม่รีบ เพราะพยายามเพิ่มทุนตาม Cash Flow ที่เราต้องใช้ เราไม่รีบ เราคงเพิ่มทุนไปเรื่อยๆ จนครบ 800 ล้านหุ้นอยู่แล้ว เพียงแต่รอจังหวะที่เหมาะสม เพราะตอนนี้ Cash Flow เรายังเหลือเฟือ เราขอมติผู้ถือหุ้นไว้ไม่เกิน เม.ย.53 เราคงจะขายหมด"นายจเรรัฐ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อย่างไรก็ตาม นายจเรรัฐ กล่าวว่า ในบรรดาผู้สนใจซื้อหุ้น D1 นั้น ยังไม่มีวี่แววของกลุ่ม"เตชะอุบล" โดยยอมรับว่าการเจรจาพูดคุยกับอีกฝ่ายเรื่องอยากให้เข้ามาเป็นผู้ร่วมทุนชะงักมาตั้งแต่ เม.ย.52 จะมีก็แค่ติดต่อกันเรื่องซื้อขายที่ดิน ซึ่งได้มีการจ่ายเงินงวดแรกไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เลิกล้มความพยายามที่จะเชิญชวนให้เข้ามาเป็นผู่ร่วมทุน และไม่มีแนวคิดที่อยากจะมีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการโรงแรมถนนเจริญกรุง พระราม 3
"กับทาง"เตชะอุบล" เราเคยเสนอไปแล้วว่าอยากให้เข้ามาถือหุ้น แต่ทางนั้นยังไม่ตอบกลับมา ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันนานพอสมควรคุยกันล่าสุดเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา จะมีติดต่อกันบ้างก็แค่เรื่องซื้อขายที่ดิน แต่เชื่อว่าการที่ราคาหุ้น D1 ขึ้นมาเยอะ และราคาค่อนข้างถูก ขายใครก็ได้ น่าจะขายง่ายขึ้นเยอะ"นายจเรรัฐ กล่าว
สำหรับผลงานใน Q2/52 คาดว่าดีขึ้นหลังบรรดากลุ่มผู้ร่วมทุนใหม่ที่เข้ามาซื้อหุ้น PP ส่วนหนึ่งช่วยหาลูกค้ามาให้เพิ่มทั้งในส่วนของธุรกิจไอที-พลังงาน