นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ตั้งข้อสังเกตุเรื่องสัญญาจ้าง บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก(EASTW) วางท่อเชื่อมอ่างเก็บน้ำประแสร์-คลองใหญ่ วงเงิน 1,680 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ไปจ้างเอกชนรายอื่นดำเนินการแทน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังไม่ได้รายงานเรื่องดังกล่าว จึงได้สั่งการให้หลายหน่วยงานร่วมกันตรวจสอบเรื่องนี้ว่าการจ่ายเงินให้ EASTW จะขัดกับข้อกฎหมายหรือไม่
ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันพิจารณาร่างสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการวางท่อเชื่อมจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ จ.ระยอง ระหว่างกรมชลประทานกับ EASTW
พร้อมกันนี้ ยังให้ตรวจสอบรายละเอียดการก่อสร้างก่อนที่จะจ่ายเงินค่าก่อสร้างโครงการดังกล่าวให้แก่บริษัทฯ จำนวน 1,008 ล้านบาทตามเนื้องานที่มีการก่อสร้างจริง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเห็นว่ากรมชลประทานได้ว่าจ้างให้บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินโครงการ แต่บริษัทฯ กลับไปว่าจ้างเอกชนรายอื่นมาก่อสร้างแทน ซึ่งหากอนุมัติงบประมาณค่าก่อสร้างจำนวน 1,008 ล้านบาทให้บริษัทฯ ไปแล้วอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้
"ไม่พบว่าราชการไปทำสัญญาว่าจ้างกับใคร...ให้หน่วยราชการไปดูเนื้อหากฎหมายว่าเป็นอย่างไร" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี รมว.เกษตรฯ เองก็รับทราบเรื่องมาตลอดในสมัยที่รับราชการ