นายสมพล เต็มสุข รองประธานกรรมการ บมจ.ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม(TIES)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างใหญ่นอกตลาดรายใดที่ต้องการเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการเพื่อทำการเข้าจดทะเบียนทางอ้อม(แบ็คดอร์ลิสติ้ง)ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในวันนี้ ขณะที่บริษัทมองว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ยาก เนื่องจากขณะนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงต้องการที่จะรักษาสัดส่วนหุ้นไว้ในระดับเดิม
"ไม่ทราบจริง ๆ ว่ามีใครอยากจะมาเทคโอเวอร์อะไรยังไง คือเรียนตามตรงผมให้ข้อมูลโดยข้อเท็จจริงเนี่ย ผมมีหน้าที่บริหารงานในบริษัทฯ ส่วนใครจะมาซื้อหุ้น หรือพูดทำนองจะเทคโอเวอร์ หรืออะไรยังไง ผมไม่ทราบจริง ๆ"
นายสมพล ตอบคำถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าบริษัทที่ต้องการทำแบ็กดอร์ลิสติ้งหุ้น TIES จะมีการเซ็น MOU ในสัปดาห์หน้าก่อนทำดีลดิลิเจ้นท์และสรุปดีลภายในเดือนก.ค.นี้
"เพื่อความเข้าใจประการแรกเลย พอบริษัทฯได้เปิดขยายหุ้น ก็มีผู้มาซื้อหุ้น แล้วตอนหลังก็มีการซื้อขายกันมากมาย ก็ดูจากวอลุ่มเทรดที่ผ่านมา ผมก็ดูตรงนี้ก็มีวอลุ่มที่ซื้อขายมากมาย แต่ก็ไม่ทราบว่าหุ้นมันกระจายไปตรงไหนบ้าง เมื่อหุ้นกระจายแล้ว จะมีใครไปแอบซื้อเพื่อที่จะมาเทคโอเวอร์หรือบริหารอะไรเนี่ย เราก็ยังไม่ทราบ เพราะพวกนี้มันรายวัน
ผมดูแล้ววัน ๆ หนึ่งซื้อขายตั้ง 20, 30, 50 บ้างที 80 ล้านหุ้น ถ้าเผื่อเป็นแบบนี้หุ้นมันก็กระจาย กระจายไปยังไง ผมก็ไม่ทราบ การติดตามเรื่องแบบนี้ เราก็ไม่สามารถที่จะติดตามได้ทุกวัน"นายสมพล กล่าว
นายสมพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทมีกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ 2 ราย คือ นายธาดา จีรัญพงษ์ และนายอัศวิน ชินกำธรวงศ์ ส่วนของตนเองที่ถืออยู่ เวลานี้ก็ได้กระจายไปให้คนในครอบครัวในตระกูล"เต็มสุข" ซึ่งก็มีอยู่ระดับหนึ่ง รวมการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 รายนี้ก็มีจำนวนกว่า 100 ล้านหุ้น ขณะที่หุ้นที่เทรดอยู่ในตลาดฯมีอยู่ 235 ล้านหุ้น
"กลุ่มของเราก็น่าจะยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แล้วใครจะมาซื้ออะไรยังไง มันไม่น่าจะมาเทคโอเวอร์บริษัทของเราได้ นี่คือหลักข้อมูลที่มีอยู่ในส่วนตัวผมนะ ดังนั้นมันไม่น่าจะเป็นเรื่องจริงตามที่มีกระแสข่าวออกมา"นายสมพล กล่าว