นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานกรรมการบริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะนำหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 490 ล้านหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไป (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในไตรมาส 3/52 เพื่อนำเงินจากการระดมทุนมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการขยายการจำหน่ายไบโอดีเซล เพื่อให้เข้าเกณฑ์เป็นผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ของกระทรวงพลังงาน
"เราได้ยื่นไฟลิ่งไปแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างรอบการอนุมัติรอบสุดท้ายของ สำนักงาน ก.ล.ต. ก็คาดว่าน่าจะเข้าตลาดได้ตามแผนเดิม ในไตรมาส 3 ปีนั้" นายสมโภชน์ กล่าว
หลังการขายหุ้นเพิ่มทุน บริษัทจะมีทุนจดทะเบียน 299 ล้านบาท จากปัจจุบันมี 250 ล้านบาท ราคาพาร์ 0.10 บาท โดย บล.พัฒนสิน เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายสมโภชน์ กล่าวว่า เหตุที่บริษัทเลือกเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai เนื่องจากมีมาตรการภาษีจูงใจกว่าตลาดหลักทรัพย์ SET และ บริษัทยังได้รับการยกเว้นทางภาษีเพิ่มสำหรับโรงงานผลิตไบโอดีเซลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นเวลา 8 ปีด้วย
ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังการผลิตไบโอดีเซล B100 4 แสนลิตร/วัน กลีเซอรีนบริสุทธิ์ 600 ตัน/เดือน และขณะนี้กำลังเตรียมขยายกำลังการผลิตเป็น 8 แสนลิตร/วัน และกลีเซอรีนบริสุทธิ์ 1,000 ตัน/เดือน โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่ถึง 100 ล้านบาท ซึ่งมาจากกระแสเงินสดของบริษัท และจะเริ่มทำการผลิตได้ภายในปลายปีนี้
นายสมโภชน์ กล่าวว่า ในเดือน ก.ค.นี้ บริษัทก็จะส่งไบโอดีเซลให้กับเอสโซ่ โดยปัจจุบันผู้ค่าน้ำมันเป็นลูกค้าบริษัท ยกเว้น เชลล์ ทั้งนี้บริษัทมีจุดแข็งธุรกิจที่มีเทคโนโลยีของตัวเอง ทำให้ต้นทุนการผลิตถูกกว่ารายอื่น และสามารถผลิตเป็นกลีเซอรีนบริสุทธิ์
ทั้งนี้ ในปี 51 บริษัทมีรายได้กว่า 2 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขายรวม 22 ล้านลิตร แต่ในไตรมาส 1/52 เติบโตมาก โดยมีรายได้ 698.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 57 ล้านบาท มีปริมาณขาย 17 ล้านลิตร เนื่องจาก บริษัทมจำหน่ายได้มากขึ้นและ ราคาขายสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนการผลิตลดลง
"แนวโน้มราคาไบโอดีเซล ปรับตัวสูง ขณะนี้ราคาปรับขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ...เชื่อมั้นว่าธุรกิจพลังงานทดแทนมีอนาคตในระยะยาว" นายสมโภชน์ กล่าว