ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) นำโดยหุ้นบริษัทผู้ผลิตวัตถุดิบ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลง และจากการที่ลอนมิน พีแอลซี ประกาศปิดเตาหลอมในแอฟริกาใต้เพื่อซ่อมบำรุงนาน 1 เดือน
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดทรุดลง 115.94 จุด หรือ 2.6% แตะที่ 4,326.01 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.
บิล อิสมาอิล จากซิตี้ อินเด็กซ์ ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า "หุ้นทุกตัวในกลุ่มโภคภัณฑ์กำลังทำให้ตลาดปรับตัวสู่ช่วงขาลง เนื่องจากความกังวลว่าราคาโลหะเริ่มร้อนแรงเกินไป เรากำลังจะได้เห็นการปรับฐาน"
วานนี้ สมาพันธ์ภาคอุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) กล่าวว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะยังไม่ขยายตัวจนกว่าจะถึงปี 2553 และธนาคารกลางอังกฤษอาจต้องขยายแผนการตีพิมพ์ธนบัตรเพิ่มเติมเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
พอล ฟิชเชอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของธนาคารกลางอังกฤษกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อังกฤษไม่ควรชะล่าใจต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อาจตกต่ำลง หากธนาคารยังไม่วามารถออกเงินกู้ได้มากพอ ด้านเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารย้ำถึงแผนการตีพิมพ์ธนบัตรเพิ่มอีก 1.25 แสนล้านปอนด์ (2.06 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากที่ได้รับอนุญาตให้มีการพิมพ์ทั้งสิ้น 1.50 แสนล้านปอนด์ และนำไปใช้ในตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ร่วงลง 2.8% แตะ 1,443 เพนซ์ หุ้นริโอ ทินโต บริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับ 3 ดิ่งลง 6.9% แตะ 2,900 เพนซ์
หุ้นลอนมิน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตแพลทตินัมรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ดิ่งลงอย่างหนักถึง 9.8% แตะ 1,300 เพนซ์ หลังจากที่บริษัทเผยว่าจะปิดเตาหลอมในแอฟริกาใต้เพื่อซ่อมบำรุงเป็นระยะเวลาประมาณ 30 วัน
โดยราคาทองแดงร่วงลงถึง 3.7% ซึ่งมากที่สุดในรอบ 8 สัปดาห์ในการซื้อขายที่นิวยอร์ก จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอุปทานอาจแซงหน้าอุปสงค์ในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองแดงรายใหญ่สุดของโลก หลังจากมีรายงานว่ายอดนำเข้าทองแดงของจีนไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่ปริมาณสำรองทองแดงในประเทศกระโดดขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 15 เดือน ขณะที่ราคาตะกั่ว นิกเกิล ดีบุก และสังกะสี ก็ปรับตัวลดลงในการซื้อขายที่ตลาดโลหะลอนดอน
หุ้นเชลล์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของยุโรป ร่วง 4.2% แตะ 1,579 เพนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน หุ้นบีพี บริษัทน้ำมันอันดับ 2 ลดลง 2.1% แตะ 504.25 เพนซ์
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันร่วงลงเป็นวันที่ 2 โดยสัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.42 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 70.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE เดือนก.ค. ซึ่งหมดอายุลงในวันจันทร์ ร่วงลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล