ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) หลังจากที่ เทสโก้ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกเผยยอดขายโตเร็ว และจากการที่นักวิเคราะห์แนะให้ซื้อหุ้น บีที กรุ๊ป
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 2.56 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 4,328.57 จุด
เทสโก้ พีแอลซี ผู้ค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกเผยยอดขายในอังกฤษช่วงไตรมาสแรกดีดตัวขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคเริ่มออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าภายในบ้านและของเล่นกันมากขึ้น
โดยยอดขายของเทสโก้ในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น 4.3% ในไตรมาสแรก สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และยังเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่ขยายตัวได้ 2.7% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 20.1% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ระดับ 20% โดยได้รับอานิสงส์จากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง
โจชัว เรย์มอนด์ จากบริษัทซิตี้ อินเด็กซ์ จำกัด กล่าวว่า ยอดขายของเทสโก้เป็นไปตามการคาดการณ์ และยอดขายที่แข็งแกร่งก็ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าสิ่งต่างๆกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ดัชนี FTSE 100 ดีดตัวขึ้นแล้ว 23% นับตั้งแต่ดัชนีร่วงแตะระดับต่ำสุดของปีนี้เมื่อวันที่ 3 มีนาคม นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและผู้ผลิตวัตถุดิบที่เดินหน้าขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 12.8 ล้านล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐ จะช่วยให้การภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงสุดนับแต่ยุค Great Depression สิ้นสุดลง
หุ้นเทสโก้ ไต่ขึ้น 1.5% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป เดินหน้า 3.7% หลังจากเร้ดเบิร์น พาร์ทเนอร์ยกระดับหุ้น และหุ้นบีที บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่สุดของอังกฤษ ทะยาน 8% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ แนะนำให้ซื้อหุ้น โดยให้เหตุผลว่ากระแสเงินสดของบริษัทดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
วานนี้ สำนักงานสถิติของอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนพ.ค.อ่อนตัวลงน้อยว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ โดยราคาอาหารที่ถูกลงและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ลดลงได้ทำให้อัตราเงินเฟ้อร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2551
ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ค. ปรับตัวลง 2.2% จากระดับ 2.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งหมายความว่าเงินเฟ้อปัจจุบันอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2% มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว และนักเศรษฐศาสตร์ก็คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคจะปรับตัวลงแตะระดับ 1% หรือต่ำกว่านั้นภายในปีนี้