นายประเสริฐ แต่ดุลยสาทิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท (PS) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มโครงการในปีนี้เป็น 30 โครงการ กก่อนหน้านี้ที่บริษัทได้มีการปรับเพิ่มมาแล้วที่ 27 โครงการ ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่มีการปรับเงื่อนไขเกี่ยวกับบ้าน BOI ใหม่ ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์
นอกจากนี้ เชื่อว่ายอดขายในครึ่งปีหลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามภาพรวมของตลาดอสังหาฯที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 3 เดือนแรกที่ภาพรวมอสังหาฯติดลบ 10% โดยในครึ่งปีหลังบริษัทจะมีการเปิดโครงการใหม่ มูลค่า 3-4 พันล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีแนวโน้มยอดขายที่ดีขึ้นโดยเดือนพ.ค.มียอดขายที่ 1.9 พันล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว 80% อีก 20% เป็นคอนโดฯ โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย.ที่มียอดขาย 1 พันล้านบาท จากวิกฤตที่เกิดขึ้น ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับบริษัทที่มีการปรับเซกเม้นท์ใหม่ในทุกอย่าง ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ซึ่งจะทำให้ในไตรมาส 2/52 น่าจะมีกำไรปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 เพราะการปรับเซกเม้นท์ใหม่ๆจะทำให้มาร์จินดีขึ้น แต่ในส่วนของรายได้คงจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 เพราะการโอนส่วนใหญ่จะมาจากบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์โดยปัจจุบันบริษัทมี backlog 1.3 หมื่นล้านบาท โดยจะรับรู้ในปีนี้ 8-9 พันล้านบาทและที่เหลือไปรับรู้ปีหน้า
"ผมว่าในครึ่งปีหลังบรรยากาศการซื้อบ้านจะคึกคักซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อธุรกิจที่มีหลายเซกเม้นท์และในระดับราคาที่ไม่แพงและเรายังมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งเงิน 3,000 กว่าล้านบาท D/E 0.7 เท่า ทำให้เรายังมีความสามารถในการที่จะรุกธุรกิจเพิ่มเติมทั้งแบรนด์ภัสสรและพฤกษาวิลล์" นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับรายได้ในปีนี้ยังคงพยายามรักษาเป้าหมายเดิมที่ 1.7 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% จาก 1.3 หมื่นล้านบาทในปีก่อน ขณะที่ยอดพรีเซลปีนี้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาทจาก 1.6 หมื่นล้านบาทในปีก่อน ซึ่งการที่ยังคงเมนเมนท์เป้าหมายเดิมถึงแม้จะมีโครงการเพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่จะไปรับรู้ในปีหน้า
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายตลาดและธุรกิจใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภคที่ปัจจุบันมีไลฟ์สไตล์มากขึ้นโดยในส่วนของการพัฒนาโครงการที่ภูเก็ตและชลบุรี คาดว่าจะเป็นไปตามแผนในปลายปี 52 รวมถึงอินเดียด้วยซึ่งในส่วนของอินเดียคงจะไปรับรู้รายได้ในปีหน้ามากกว่า เพราะการลงทุนที่อินเดียเป็นการลงทุนระยะยาว