ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายวันนี้ร่วงลงไปแล้วกว่า 2% ตามทิศทางการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นในต่างประเทศแถบเอเชีย หลังจากกังวลความเสี่ยงในธุรกิจสถาบันการเงินของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศปรับเปลี่ยนมาตรการทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1930 และ S&P กำลังทบทวนปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงิน 18 แห่ง ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีแรงเทขายหุ้นกลุ่มบิ๊กแคปที่เป็นตัวนำตลาด
เมื่อเวลา 15.00 น.ดัชนี SET ลดลง 11.91 จุด มาอยู่ที่ 574.23 จุด (-2.03%)
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันซ่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายอยู่ในภาวะที่ปรับตัวลงจาก 3 เรื่องหลัก เพราะ ประเด็นที่ 1 หุ้นวิ่งมาเยอะมากแล้วในช่วงเวลาอันสั้นเกินตัวทั้ง earning และเศรษฐกิจโดยรวม จึงปรับตัวลงมา ประเด็นที่ 2 แผนของโอบามาการปฎิรูประบบกฎหมายทางการเงินทั้งหมดซึ่งก็น่าจะมีผลในเชิงลบต่อสถาบันการเงินในสหรัฐและข้ามมาที่ยุโรปด้วยทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นมา และประเด็นที่ 3 S&P ดาวน์เกรด 18 แบงก์ให้อเมริกาและอาจจะยังมีอีก
ประเด็นต่อๆมาก็คงจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้ชี้ชัดเจนว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวทำให้ตลาดหุ้นยังอยู่ในภาวะที่จะอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องต่อไปได้ บ่ายนี้ก็มีสิทธิที่จะลงต่อ ปัจจัยในประเทศแทบจะมีผลน้อยในตอนนี้เพราะเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นต่อตลาดหุ้นทั่วทั้งโลกชัดเจน
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.14 น. ดัชนีอยู่ที่ 572.09 จุด ลดลง 14.05 จุด (-2.40%)