ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กข้อมูลศก.สดใส หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 58.42 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 19, 2009 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนส่วนใหญ่คลายความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การแสดงความคิดเห็นในด้านบวกเกี่ยวกับการยกเครื่องมาตรการกำกับดูแลภาคการธนาคารของนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม แรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ฉุดดัชนี Nasdaq ปิดลบและสกัดกั้นช่วงขาขึ้นของดาวโจนส์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 58.42 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 8,555.60 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 7.66 จุด หรือ 0.84% แตะที่ 918.37 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 0.34 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 1,807.72 จุด

ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.09 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกประมาณ 1,741 ต่อ 1,263 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.11 พันล้านหุ้น

สก็อต อาร์ไมเกอร์ นักวิเคราะห์จาก Christiana Bank & Trust กล่าวกับเอพีว่า หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นหลังจากไกธ์เนอร์แถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐเพื่อปกป้องแนวคิดของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่าให้ยกระดับมาตรการกำกับดูแลด้านการธนาคาร พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์ในภาคการธนาคารเริ่มดีขึ้นแล้ว

ไกธ์เนอร์ยืนยันต่อวุฒิสภาสหรัฐว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้กำกับดูแลภาคการธนาคาร และดูแลบริษัทการเงินขนาดใหญ่ที่มีปัญหาและส่อเค้าว่าจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ โดยการแสดงความคิดเห็นของไกธ์เนอร์มีขึ้นหลังจาก 10 ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รวมถึง เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และ โกลด์แมน แซคส์ ประกาศชำระเงินคืนมูลค่า 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์คืนโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP)

นักลงทุนขานรับรายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ว่า ยอดชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 148,000 ราย แตะระดับ 6.76 ราย ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจพุ่งขึ้น 1.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 ปี

ทั้งนี้ ดัชนี KBW หุ้นกลุ่มประกันพุ่งขึ้น 1.8% และดัชนี S&P หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้น 2.5% โดยหุ้นเจพีมอร์แกน ดีดขึ้น 3.1% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์พุ่งขึ้น 2%

ส่วนหุ้นดิสคัฟเวอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (DFS) พุ่งขึ้น 4% หลังจากทางบริษัทรายงานว่า ยอดขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ