มอร์แกนสแตนลีย์คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อาจปรับตัวสูงขึ้นอีก 32% ในปีหน้า เนื่องจากเม็ดเงินรายได้ในตลาดเริ่มดีขึ้น ประกอบกับการที่ตลาดสามารถฟื้นตัวได้เร็วเกินความคาดหมาย
ดัชนีตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่อาจไต่ระดับขึ้นไปถึง 985 จุดในเดือนมิ.ย.2553 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ในก่อนหน้านี้ 21% โดยดูจากพื้นฐานการประเมินเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.25-3.5% ในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม มอร์แกน สแตนลีย์ได้ลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในพอร์ทการลงทุนโดยให้เหตุผลว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกอาจเผชิญภาวะถอยหลังเข้าคลองในระยะสั้นๆ
โจนาธาน การ์เนอร์ นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า "เราคาดการณ์ทิศทางการความเคลื่อนไหวของดัชนีโดยดูจากเม็ดเงินลงทุนที่กระเตื้องขึ้นในระยะสั้นๆ ซึ่งก็เห็นว่าเม็ดเงินดังกล่าวสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้ แต่เรายังไม่สามารถทุ่มเงินลงทุนไปจนหมดหน้าตักเพราะเมื่อพิจารณาจากรูปแบบการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจนั้นจะเห็นว่าได้กราฟออกมาเป็นรูปตัว W"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 15:33 น.ตามเวลาสิงคโปร์ ดัชนี MSCI index ในตลาดกำลังพัฒนาไต่ระดับขึ้น 0.3% แตะที่ 745.74 จุด โดยในปีนี้ดัชนีดังกล่าวทะยานขึ้นไปแล้ว 32 จุด
ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ได้ลดสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ในพอร์ทลงทุนสำหรับตลาดเกิดใหม่มาอยู่ที่ 54% จากเดิมที่ 56% แต่แนะให้นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ในรูปเงินสดของตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น 5% จากเดิมที่แนะให้ลงทุน 3% โดยให้เหตุผลว่าดัชนีหุ้นของตลาดเกิดใหม่อาจเผชิญกับระยะปรับฐานระหว่าง 17-33% จากระดับสูงสุดในอีก 3 ปีข้างหน้าท่ามกลางปัจจัยนานับประการที่มีอิทธิพลต่อตลาดเช่น ปัจจัยทางเทคนิค กระแสเงินทุนหมุนเวียน รูปแบบการซื้อขาย และปัจจัยอื่นๆที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์