บมจ. โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) ปัดฝุ่นแผนขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องดื่มด้วยเงินลงทุนกว่า 1.4 พันล้านบาทอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้มีเหตุให้ต้องสะดุดไป เนื่องจากรัฐบาลประกาศจะเพิ่มภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มชาและกาแฟบรรจุดขวดอีก 20% เพราะเกรงว่าหากรัฐบาลปรับขึ้นภาษีดังกล่าวอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายสินค้าแบรนด์ "คอฟฟิโอ (Coffio)" และไม่คุ้มค่าการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต
"เราจะกลับมาพิจารณาแผนขยายกำลังผลิตอีกครั้ง หลังตอนนี้เรื่องรัฐบาลจะขึ้นภาษีชากาแฟเงียบหายไป"นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ OISHI กล่าว
ก่อนหน้านี้ OISHI มีแผนลงทุน 1,430 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและบรรจุเครื่องดื่มใส่ขวด PET แบบ Cold Aseptic Filling แล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 12 ล้านขวด/เดือน จากปัจจุบันที่โรงงานเดิมผลิตได้ประมาณ 35 ล้านขวด/เดือน หลังคาดหมายว่าอีก 2 ปีอีก 2 ปี ยอดขายจะเติบโตจนถึงจุดที่เราต้องเพิ่มกำลังผลิตพอดี การลงทุนเพิ่มการผลิตจึงเป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้าเพื่อรองรับ แต่หลังรัฐบาลเคยออกมาประกาศว่าจะขึ้นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มชาและกาแฟบรรจุดขวดอีก 20%ซึ่งจะกระทบโดยตรงต่อยอดขายของบริษัททำให้ตัดสินใจเบรกแผนลงทุนดังกล่าว เพราะเชื่อว่าการขึ้นภาษีจะทำให้ยอดขายตกแน่นอน การลงทุนเพิ่มเพื่อขยายกำลังการผลิตจึงไม่จำเป็น
*ยอดขาย 5 เดือนแรก โตตามเป้า 20%
นายตัน กล่าวถึงยอดขายในช่วงไตรมาส 1/52 ยอดขายของบริษัทยังสามารถเติบโตได้คือ 22% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 20% ยอดขายในช่วง 5 เดือนแรก ก็สามารถเติบโตแล้ว 20% ทั้งในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนหนึ่งมาจากโครงการเช็คช่วยชาติ และแคมเปญ "ไปแต่ตัวทัวร์ยกแก๊ง"
"ผมว่าช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 เป็นช่วงที่น่าท้าทายมากสำหรับเรา และเราคงไม่หยุดนิ่ง และยังไม่เป้าเป้ายอดขายทั้งปีที่คาดว่าจะโต 20%"นายตัน กล่าว
นายตัน กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทเดินหน้าทำการตลาดผลิตภัณฑ์"คอฟฟิโอ" หลังจากวางตลาดมาได้ครบ 1 ปีแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรงในตลาดกาแฟพร้อมดื่ม โดยเฉพาะในตลาดกาแฟพร้อมดื่มบรรจุขวดระดับพรีเมี่ยม
โดยปัจจุบันตลาดรวมกาแฟมีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกาแฟพร้อมดื่ม (Ready to Drink) เช่น บรรจุกระป๋อง และบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นๆ ประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่ในตลาดนี้สินค้าที่เป็นระดับพรีเมี่ยมมีเพียง 3-4% ของ 10,000 ล้านบาท เนื่องจากมีคนทำตลาดนี้มีอยู่ไม่กี่เจ้า คือ คอฟฟิโอ และแฟรนไชส์ร้านกาแฟจากต่างประเทศ แต่เชื่อว่าด้วยพฤติกรรมการบริโภคกาแฟพร้อมดื่มระดับพรีเมี่ยมที่ยังมีอยู่ สังเกตจากตัวเลขอัตราการเติบโตขของตลาดนี้อยู่ที่ประมาณ 13% ต่อปี (ตัวเลข ณ เดือนเม.ย.52 ย้อนหลังไป 12 เดือน) ทำให้โออิชิไม่รีรอที่จะทำการตลาด"สินค้า"คอฟฟิโอ"ต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภครับรู้ถึงความแตกต่างของคอฟฟิโอ และกาแฟพร้อมดื่มอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด
เบื้องต้นโออิชิมีแผนจะใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับจัดกิจกรรมการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ในโอกาสที่"คอฟฟิโอ"ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 2 โดยล่าสุดงบการตลาดดังกล่าวถูกแบ่งมาใช้สำหรับกิจกรรม CSR ในโครงการ "คอฟฟิโอ เซิร์ฟ มี ไรท์ ไดรฟ มาย ดรีม คอนเทสต์" เป็นโครงการประกวดภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ ความยาว 60 วินาที ซึ่งจะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสในนักศึกษา คนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 18-26 ปี สมัครเป็นทีม ทีมละไม่เกิน 3 คน แสดงความคิดสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์โฆษณา โดยใช้"คอฟฟิโอ"เป็นสื่อกลาง เพื่อชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท โดยผู้ชนะเลิศโครงการนี้จะได้รับเงินสด 2 แสนบาท