ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ร่วงแรงไปราว 3% ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่กังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งน้ำมันดิบและโลหะปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งไปถึง 200 จุดเมื่อคืนนี้ และเช้านี้ตลาดหุ้นทั่วเอเชียร่วงลงตามกันถ้วนหน้า
เมื่อเวลา 10.00 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 565.18 จุด ปรับตัวลดลง 17.11 จุด (-2.94%)
นายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาร่วงกว่า 2% เป็นไปตามตลาดต่างประเทศ ซึ่งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า ตามทิศทางของดาวโจนส์ ทั้งนี้มองว่านักลงทุนคงจะขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อน ภายหลังจากที่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกที่อาจจะมีการล่าช้าออกไป อย่างที่ทางญี่ปุ่นมองว่าเศรษฐกิจโลกไม่ได้มีการฟื้นตัวเร็วอย่างที่คาดกันไว้
ทั้งนี้ มองว่าเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไรนั้นคงจะต้องรอดูต่อไป ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเรื่องยากที่จะชี้ชัดถึงทิศทางเศรษฐกิจที่แท้จริง นอกจากนี้ก็มีการมองกันว่าราคาหุ้นของทุกตลาดทุนได้ค่อนข้างแพงไปแล้วเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีการขายทำกำไรกันออกมาด้วย
ด้าน Thailand Vision บล.ฟาร์อีสท์ ระบุว่า DJ -2.4%, S&P-500 -3.1% ปรับตัวลงแรงสุดในช่วง 2 เดือนหลังจากธนาคารโลกปรับลดประมาณการเติบโตของโลกในปีนี้จาก -1.7% เป็น 2.9% และจะเติบโตในปีหน้าเพียง 2% จาก +2.3% ในการคาดการณ์ครั้งก่อน ผลก็คือดัชนีชี้วัดความผันผวน (VIX Index) พุ่งขึ้นถึง 11.4% ถือเป็นการปรับขึ้นภายในวันเดียวที่สูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ เช่นเดียวกับ Europe’s VStoxx Index ซึ่งชี้วัดค่าความผันผวนในยุโรปปรับตัวขึ้น 17% สูงสุดนับตั้งแต่ 6 พ.ย. ปีที่แล้ว
นอกจากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจถดถอยมากกว่าคาดจะส่งผลให้เกิดแรงขายในกลุ่มธนาคาร โดย KBW Bank Index ลดลง 6.6% แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานให้ลดลง 4.6% โดยคาดว่ารูปแบบของการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ และยุโรปในช่วงต่อไปจะเป็นลักษณะแกว่งตัวลง สลับการรีบาวด์บางช่วง โดยคืนนี้จะมีการประกาศยอดขายบ้านมือสองที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3%MoM และราคาจะลดลง 0.4% จาก -1.1% ในครั้งก่อน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวดีกว่าการประกาศครั้งก่อนจึงอาจส่งผลให้ดัชนีมีการ
ทั้งนี้ เอเชียเช้านี้ลดลงโดยเฉลี่ย 2.5% ขณะที่น้ำมันกำลังทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ $67 กดดันการลงทุนในตลาดไทย โดยคาด SET จะปรับตัวลงทดสอบจุดต่ำสุดสัปดาห์ที่แล้วบริเวณ 567 จุด แรงขายหนักในกลุ่ม ENERG, PETRO, Shipping, CONMAT และขายปานกลางในกลุ่มรับเหมา และ PROP จะกดดันให้ตลาดปรับตัวลง ขณะที่แรงซื้อในกลุ่ม BANK จะลดลง สลับการขายทำกำไรมากขึ้น เนื่องจาก Fund Flows ที่ชะลอลงทั้งภูมิภาค กลยุทธ์ เปิดต่ำซื้อเก็งกำไรขายเมื่อรีบาวด์คงการถือเงินสด 65% หุ้น 35%
ล่าสุดเมื่อ 10.21 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 563.61 จุด ลดลง 18.68 จุด(-3.21%)