แหล่งข่าวจาก บมจ.อสมท(MCOT)คาดได้ข้อสรุปเรื่องการเจรจาต่อสัญญาสัมปทานระหว่าง อสมท.กับบมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากสัญญาสัมปทานปัจจุบันกำลังจะหมดอายุลงในปี 53 นี้แล้วจำเป็นจะต้องมีข้อสรุปการต่อสัญญาออกไปอีก 10 ปีในเร็ว ๆนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะทำงาน ซึ่งมีทั้งตัวแทนทั้งจากกระทรวงการคลัง อสมท. และสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ สัญญาสัมปทานเดิมคิดผลประโยชน์ตอบแทน 2,000 ล้านบาท ต่ออายุสัมปทาน 10 ปี หรือเฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับรายได้ของ BEC และไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งกรณีของคู่สัญญาของ อสมท.รายอื่นอย่างทรูวิชั่นส์ที่จ่ายผลประโยชนตอบแทน 6.5% ของรายได้นั้น คิดเป็นเม็ดเงินประมาณปีละอย่างน้อย 650 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่า BEC มาก
"ทาง BEC คงไม่อยากจ่ายค่าสัมปทานเพิ่มขึ้น แต่ อสมท.ในฐานะผู้ให้เช่าและมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกระทรวงการคลัง ซึ่งรายได้ก็จะต้องเข้าสู่ภาครัฐ การขึ้นค่าสัมปทานน่าจะเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐโดยรวม"แหล่งข่าว กล่าว
ส่วนการเจรจาแก้ไขสัญญากับทางทรูวิชั่นส์ที่ขอมีโฆษณานั้น ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการพูดคุย แต่หากยังคงอัตราผลประโยชน์ตอบแทนที่ 6.5% ทางอสมท.ก็ยังจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาที่เพิ่มเข้ามาด้วย
อนึ่ง มีรายงานข่าว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ MCOT ในวันที่ 25 มิ.ย.จะพิจารณาเรื่องการอนุญาตให้ทรูวิชั่นส์มีโฆษณาได้
แหล่งข่าว กล่าวถึงการรับสมัครกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ คาดว่าได้ชื่อกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ต้นเดือนก.ค.นี้อย่างแน่นอน หลังปิดรับสมัครไปแล้วมีผู้สนใจสมัครทั้งสิ้น 20 คน โดยในคราวนี้จะไม่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น หรือวันเวลาเรียกมาแสดงวิสัยทัศน์ แต่จะปิดประกาศรายชื่อผู้ได้ตำแหน่งในคราวเดียวเลย