นายอมรเทพ อสีปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายขายในประเทศ และต่างประเทศ บมจ.ซาบีน่า (SABINA) กล่าวยอมรับว่า ในปีนี้การเปิดสาขาคงจะสามารถเปิดได้เพียง 2-3 แห่งเท่านั้นจากแผนที่วางไว้จะเปิด 5 สาขาในปีนี้ เนื่องมาจากผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และปัญหาในเรื่องของสถานที่ที่ยังไม่พร้อม
ทั้งนี้ คาดว่าจะเห็นการเปิดสาขาใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนสาขาที่เหลือคาดว่าจะเห็นในปีหน้า โดยคาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนต่อสาขาที่ 1-2 ล้านบาท ถือว่าลงทุนไม่มากนักเพราะเป็นการเช่าพื้นที่
"จริงๆ ใจเราอยากจะเปิดให้ได้ 5 สาขาในปีนี้ตามแผนที่วางไว้ แต่ทุกอย่างตอนนี้มันเลื่อนไปหมด ทำให้เราต้องเลื่อนตามไปด้วย เดิมเราเคยคิดว่าการเปิดสาขาจะเห็นได้บ้างในช่วงครึ่งปีแรก แต่ตอนนี้คงจะไม่ทันและการเปิดสาขาคงจะเห็นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะกำลังซื้อยังมีสูง"นายอมรเทพ กล่าว
นายอมรเทพ กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะกลับมาดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก หลังจากที่ภาครัฐอัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะสอดคลัองกับแผนการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังที่จะมีการออกคอลเล็คชั่นใหม่ และนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า รวมถึงใช้งบการตลาดมากขึ้นตามแผนที่วางไว้ 50 ล้านบาท จากปีก่อนที่ใช้เพียง 30 ล้านบาท
บริษัทจะเปิดตัวชุดชั้นในคอลเลคชั่น "ซอฟต์ ดูม"ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งถือเป็นสินค้าไฮไลท์ในการทำตลาดชุดชั้นในให้กับ SABINA ในปีนี้ และคาดว่าจะทำยอดขายจากคอลเลคชั่นนี้ประมาณ 200 ล้านบาท
นายอมรเทพ คาดว่า รายได้ในไตรมาส 2/52 จะปรับตัวขึ้นเมื่อเที่ยบกับไตรมาส 1/52 เนื่องจากในช่วงเม.ย.-พ.ค. ที่เป็นช่วงปิดเทอม และเป็นซีซั่นของธุรกิจ ทำให้ยอดขายมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ปรับตัวมากขึ้น กลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีสัดส่วน 40% ขณะที่กลุ่มวัยสาว 30% และวัยเด็ก 10% ที่เหลือเป็นสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าวัยผู้ใหญ่
สำหรับยอดขายในครึ่งปีแรกยังทรงตัวและมีแนวโน้มดีขึ้นในบางเดือน จากการการออกโปรโมชั่นและการดีไซน์ที่สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้บริษัทยังคงเป้ารายได้ในปีนี้เติบโต 20% หรือ 1.2 พันล้านบาทจาก 1 พันล้านบาทในปีก่อน