ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอรกปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายและมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นการประชุมระยะ 2 วันในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ รวมถึงจีดีพีไตรมาสแรก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 16.10 จุด หรือ 0.19% แตะที่ 8,322.91 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.06 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 895.10 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 1.27 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 1,764.92 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่เพียง 1.21 พันล้านหุ้น ซึ่งเป็นสถิติที่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ย โดยมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 1,577 ต่อ 1,418 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.18 พันล้านหุ้น
จิม เฮอร์ริค นักวิเคราะห์จากบริษัท Baird & Co กล่าวว่า นักลงทุนชะลอการซื้อขายและมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นการประชุมระยะ 2 วันในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยมีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของเฟดและเชื่อว่าเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากการที่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือที่ "Aaa" ของสหรัฐยังแข็งแกร่ง หลังจากที่ในเดือนที่แล้ว มูดี้ส์ได้ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐที่อันดับสูงสุด เนื่องจากมีปัจจัยหนุนหลายด้าน อาทิ เศรษฐกิจที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่น สถาบันรัฐที่เข้มแข็ง รายได้คนอยู่ในระดับสูง และการคงความเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจโลก
ปิแอร์ ไกล์โต กรรมการผู้จัดการฝ่ายความเสี่ยงของมูดี้ส์กล่าวว่า แม้สหรัฐจะมีความเสี่ยงว่าจะถูกหั่นอันดับเครดิตอยู่บ้าง แต่พื้นฐานของรัฐบาลยังมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังมีศักยภาพที่จะฟื้นตัว ขณะที่รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะเพิ่มภาษีและปรับลดการใช้จ่าย
สำนักงบประมาณของสภาคองเกรสคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลบัญชีของสหรัฐอาจอยู่ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาพยายามใช้มาตรการต่างๆเพื่อพยุงให้สหรัฐรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหนักสุดในรอบ 50 ปี รวมถึงการให้คำมั่นว่าจะควบคุมตัวเลขขาดดุลงบประมาณทันทีที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกนบวก 2.1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาเพิ่มขึ้น 2.4% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเชฟรอนขยับขึ้น 0.3% หุ้นเอ็กซอนบวก 0.2% หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้
ส่วนหุ้นโบอิ้งร่วง 6.5% หลังจากบริษัท โบอิ้ง ประกาศเลื่อนการเปิดตัวเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์