NCH ขอ 3 เดือนประเมินศก.-อสังหาฯ ก่อนปรับแผนหันเปิดโครงการใหม่ปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 24, 2009 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง(NCH) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาในการเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ ซึ่งเป็นการปรับแผนจากเดิมที่คิดว่าจะงดเปิดโครงการใหม่และเน้นขยายโครงการในเฟสต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ยังต้องประเมินสถานการณ์ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาสถานการณ์ใน 3 เดือน รวมถึงจะต้องมีการประเมินการขายในโครงการต่างๆ ที่มีอยู่ด้วย

บริษัทเชื่อว่าบรรยากาศธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการที่ภาครัฐมีการกระตุ้นการลงทุน ทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงการตัดสินใจการในการซื้อบ้าน โดยประเมินจากสัญญาณการกลับมาโดยเฉพาะยอขายในเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ 5 เดือนมียอดขายแล้ว 700 ล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีมาตรการภาษีของภาครัฐในการช่วยกระตุ้นอสังหาฯ แต่การออกแคมเปญในการกระตุ้นผู้บริโภคก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถโอนบ้านได้เร็ว โดยในส่วนของบริษัทได้มีการออกแคมเปญ "NC Quick Plus" เพื่อให้ส่วนลด-บัตรกำนัล หากโอนบ้านเร็วภายในระยะเวลา 3 วัน 10 วัน 20 วัน ใน 9 โครงการในแบรนด์บ้านฟ้า เช่น โครงการบ้านฟ้ากรีนพาร์ค รังสิต คลอง 3 โครงการบ้านฟ้าปิยะรมย์ พรีเมีย พาร์ค โครงการบ้านฟ้ากรีนพาร์ค รอยัล ธนบุรีรมย์ เป็นต้น

แคมเปญดังกล่าวจะเริ่มในเดือนมิ.ย.-ก.ค. และคาดว่าจะสร้างยอดขายให้กับเพิ่มอีก 300 ล้านบาท เพราะฉะนั้นหากรวมยอดขายที่มีแล้ว ทำให้บริษัทจะมียอดขายอยู่ในมือแล้ว 1 พันล้านบาทจากเป้าหมายทั้งปี 1.6 พันล้านบาท

"แม้จะมีภาษีอสังหาฯ ของภาครัฐที่จะช่วยในการกระตุ้นแล้ว การออกแคมเปญถือเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงนี้และยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ซื้อเพระจะเห็นว่าหลายผู้ประกอบการหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น และยังเป็นการระบายสต็อคเก่าที่มีอยู่ โดยเฉพาะบ้านพร้อมอยู่ที่สต็อคของบริษัทประมาณ 13 โครงการ หรือคิดเป็นประมาณ 2 พันล้านบาท ซึ่งของเราหากทำได้ตามที่วางไว้จะทำให้ในครึ่งปีหลังไม่ต้องเหนื่อยมาก" นายสมเชาว์ กล่าว

นายสมเชาว์ กล่าวต่อว่า การที่บริษัทออกแคมเปญเพื่อเร่งระบายสต็อค อาจจะส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้น (GP) ในปีนี้ให้ลดลงเหลือ 30% จาก 32% ในปีก่อน แต่ก็เป็นประเด็นที่รับได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้

ในส่วนโครงการบ้าน BOI นายสมเชาว์ กล่าวยอมรับว่า บริษัทมีความสนใจที่จะพัฒนาโครงการที่เข้าหลักเกณฑ์รับสิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุน แต่คงจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะปัจจุบันบริษัทจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน หากลงมาทำบ้านในระดับราคาตามเกณฑ์ BOI อาจจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้

ขณะที่ในส่วนของที่ดินที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาเสนอที่ดิน ทั้งในต่างจังหวัดและกทม. จำนวน 2-3 ราย/เดือน แต่คงจะต้องพิจารณา เพราะปัจจุบันบริษัทก็มีสต็อคที่ดินเหลืออยู่จำนวนมากในการพัฒนาโครงการกว่า 700 ไร่ เช่น พัทยา และที่ดินที่เหลือในโครงการปิยะรมย์


แท็ก อสังหาฯ   (NCH)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ