(เพิ่มเติม) KTCเล็งออกหุ้นกู้อีกรอบก่อนสิ้นปีราว4 พันลบ./คาดปีนี้กำไรต่ำกว่าปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 24, 2009 12:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.บัตรกรุงไทย(KTC) เตรียมออกหุ้นกู้เพื่อระดมเงินทุนอีกรอบก่อนสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าจะกำหนดวงเงินไม่เกิน 4 พันล้านบาท อายุหุ้นกู้ 3 ปี หลังจากที่การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านไปเมื่อ 22 มิ.ย.มีนักลงทุนจองซื้อเต็มวงเงินภายในวันแรก ขณะที่ผลประกอบการในปีนี้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจทำให้กำไรลดลงจากปีก่อน แต่ยังไม่ถึงขั้นขาดทุน ขณะที่อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้าที่เกินระยะเวลา 1 เดือนเพิ่มขึ้นมาที่ 4% จากปกติที่อยู่ในระดับ 3%

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC กล่าวว่า จากแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทต้องพิจารณาสถานการณ์อีกระยะก่อนจะออกหุ้นกู้รอบใหม่ แต่ขณะนี้มองว่า ลูกค้าจะพิจารณาเลือกลงทุน จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ ความน่าเชื่อถือขององค์กรที่จะระดมเงิน การกำหนดอัตราผลตอบแทน และ อายุของตราสารที่จะออก โดยลูกค้ามองว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้าสถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น ดังนั้น หุ้นกู้ที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 3 ปี

"ตอนนี้บริษัทยังมีเงินเหลืออยู่อีกกว่า 10,000 ล้านบาทน่าจะเพียงพอดำเนินธุรกิจได้ วงเงินยังมีเหลือจากธนาคารกรุงไทย (KTB) ซึ่งลดลงเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งนำไปชำระคืนหนี้ครบกำหนด...รอดูสถานการณ์ก่อน ยังไม่ออกเร็วๆ นี้ แต่ไม่น่าเกินสิ้นปี" นายนิวัตต์ กล่าว

สำหรับการระดมเงินโดยการออกหุ้นกู้ครั้งใหม่ ส่วนหนึ่งเพื่อนำไปชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด ขณะเดียวกัน บริษัทต้องการปรับพอร์ตเงินกู้ จากปัจจุบันมีสัดส่วนเงินกู้ระยะสั้นที่ 40% ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้แบบข้ามคืน ส่วนอีก 60% เป็นเงินกู้ระยะยาว ซึ่งช่วงปลายปีนี้จะมีเงินกู้ที่ครบกำหนดอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่คาดว่าน่าจะสามารถ Roll Over ได้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้บริษัทต้องเข้มงวดในการอนุมัติบัตรใหม่ให้ลูกค้า โดยจะพิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบัน ยอดลูกค้าทำบัตรใหม่เฉลี่ยอยู่ที่ 20,000 ราย/เดือน จนถึงสิ้นปี คาดว่าจะมียอดลูกค้าบัตรใหม่ทรงตัวใกล้เคียงปีก่อน และทั้งปียอดลูกค้ารวมจะอยู่ที่ 1.6 ล้านรายใกล้เคียงปีก่อน

ทั้งนี้ยอมรับว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้มียอดลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปสูงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีรายได้ต่ำ มีอาชีพประกอบธุรกิจ เอสเอ็มอี หรือลูกค้าที่มีรายได้หลักจากค่าคอมมิชชั่น หรือค่าโอที ขณะที่กลุ่มที่มีรายได้สูง 70,000 บาท/เดือน ไม่มีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้

อย่างไรก็ตาม มองเศรษฐกิจครึ่งปีหลังนี้ น่าจะทรงตัวหรือดีขึ้นเล็กน้อยจากครึ่งปีแรก โดยพิจารณาจากบรรยากาศการลงทุน หรือการใช้จ่าย ไม่ได้มีสัญญาณเลวร้ายลง ดังนั้น เชื่อว่ากลุ่มคนตกงานไม่น่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่การดำเนินธุรกิจของบริษัท ยังเน้นการหารายได้จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของลูกค้า และรายได้จาก Discount Rate ควบคู่กัน โดยปีนี้ คาดจะมีลูกค้ามียอดใช้จ่ายผ่านบัตร และถอนเงินสด เฉลี่ยเกิน 96,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อน แต่อาจไม่ถึง 1 แสนล้านบาท

และในวันนี้ KTC ร่วมกับ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดตัวแคมเปญ "แลก 1 บิน 2" ให้สมาชิกบัตรเครดิต เคทีซี-รอยัล ออร์คิด พลัส นำคะแนนสะสมแลกบัตรโดยสารการบินไทย เพียง 1 ใบ แต่บินได้ 2 คน สำหรับทุกเส้นทางการบินในและต่างประเทศ และทุกชั้นการบิน เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.52 และเดินทางได้ตั้งแต่ 1 ก.ค.-31 ต.ค.52

โดย บริษัทยังเพิ่มสิทธิพิเศษแก่สมาชิกทั้งเก่าและใหม่ โดยสมาชิกบัตรเครดิต กลุ่ม เคทีซี-รอยัล ออร์คิด พลัส ทุกประเภท ที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 20,000 บาทขึ้นไปใน 30 วัน รับคะแนนสะสมทันที 20,000 คะแนน ส่วนสมาชิกใหม่ ที่มียอดใช้จ่าย 10,000 บาท ใน 30 วัน รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้น 1,000คะแนน นอกจากนี้ ยังให้สิทธิพิเศษ มากขึ้น สำหรับ สมาชิกบัตรเครดิต เคทีซี-รอยัล ออร์คิด พลัส วีซ่า อินฟินิท/เวิลด์ มาสเตอร์การ์ด และวีซ่า แพลทินัม ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรตามที่กำหนดเพื่อรับคะแนนสะสมเช่นกัน

นายนิวัตต์ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้แลกคะแนนสะสมผ่านบัตรในกลุ่มการบินไทยทุกประเภท กว่า 5,000 ราย โดยบริษัทได้จัดเตรียมงบประมาณด้านการตลาด สำหรับลูกค้าที่แลกคะแนนสะสมดังกล่าว วงเงิน 100 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ