รายงานข่าวจากธนาคารทหารไทย (TMB) ชี้แจงว่า กรณีที่บริษัทจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ Moody’s Investors Service ได้ ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร จาก ระดับ Baa2/Prime 2 มาเป็น Baa3/Prime 3 เมื่อ 24 มิ.ย.52 เนื่องจาก Moody’s ได้ปรับลดความสามารถของภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือ (systemic support input) ที่มีต่อระบบธนาคารโดยรวม จาก Aa2 มาอยู่ที่ A2 ต่อเนื่องจาก 27 พ.ค. 52 ที่ Moody’s ได้ทำการทบทวนที่จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารไทยทั้ง 11 แห่ง
อย่างไรก็ตาม อันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร หลังถูกปรับลด ยังคงอยู่ในระดับ investment grade โดยปัจจุบัน ธนาคารทหารไทยมีฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง มีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนตามกฎหมายที่ 14.1% สูงกว่าระดับที่กฎหมายกำหนดที่ 8.5%
นอกจากนี้ ธนาคารได้ทำการปรับปรุงระบบการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ให้ทัดเทียมระบบสากล และยังได้ขาย สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 15,000 ล้านบาท และกำลังดำเนินแผนกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างฐานธุรกิจ ซึ่งรวมถึง การปรับปรุงระบบดำเนินงานของสาขา (Branch Transformation) การปรับปรุงระบบบุคลากร (HR Transformation) และการพัฒนาธุรกิจรายย่อยสู้ระบบมาตรฐานสากล
ปัจจุบัน ธนาคารมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 601,379 ล้านบาท โดยมี กระทรวงการคลังถือหุ้น 26.1% และ ING Group 25.2%