ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 581.43 จุด เพิ่มขึ้น 11.58 จุด(+2.03%) มูลค่าการซื้อขาย 16,728.06 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 582.94 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 568.79 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 237 หลักทรัพย์ ลดลง 69 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 118 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีการดีดกลับขึ้นมา ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่แดนบวก โดยตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานขึ้นนำตลาดฯ ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบได้กลับมาปรับตัวขึ้น ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าราคาน้ำมันจะขึ้นได้ยั่งยืนหรือเปล่า อีกทั้งเวลานี้ตลาดฯก็ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่อะไรเข้ามา
นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาที่หุ้นในกลุ่มแบงก์ใหญ่ อย่างหุ้น KBANK และ SCB เนื่องจากหลายวันที่ผ่านมาได้มีการปรับฐาน อย่างไรก็ดีเวลานี้ทุกคนต่างจับตาดูผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)เพราะจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโดยรวมของโลก ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมในวันนี้ถือว่ายังต่ำอยู่ ซึ่งมองแล้วเห็นว่าเป็นลักษณะที่นักลงทุนลงทุนอย่างระมัดระวัง อีกทั้งทิศทางของตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับฐานได้อยู่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(25 มิ.ย.)น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า คงจะต้องรอดูผลประชุมเฟดในคืนวันนี้ก่อน ถึงจะสามารถจับทิศทางตลาดฯในวันพรุ่งนี้ได้ โดยล่าสุดทางเทคนิคได้ให้แนวต้านไว้ที่ 580-600 จุด แนวรับให้ไว้ที่ 540-520 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,012.84 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,947,54 ล้านบาท ปิดที่ 127.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,118.33 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 945.61 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 873.97 ล้านบาท ปิดที่ 327.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท