บมจ. โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) เผยปีนี้ใช้งบลงทุนรวม 1.8 พันลบ.สูงสุดในรอบ 10 ปี แบ่งใช้ในการก่อสร้างโรงงานใหม่แห่งที่ 3 ซื้อเครื่องจักรระบบใหม่ ประมาณ 1,430 ล้านบาท, ขยายสาขาร้านอาหาร 20 แห่ง ด้วยเงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงบลงทุนด้านอื่นๆ เช่น งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ และซ่อมแซมเครื่องจักรเก่า
สำหรับโรงงงานแห่งที่ 3 มูลค่าการลงทุน 1,430 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าที่ดิน 104 ล้านบาท ค่าเครื่องจักรระบบใหม่เทคโนโลยีการบรรจุแบบปลอดเชื้อ (Cold Aseptic Filling) 800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นค่าก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าภายใน Q3/52 จะเปิดประมูลผู้รับเหมาก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี 8 เดือน หรือประมาณ ต้นปี 54 จึงจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้
ทั้งนี้ โรงงานใหม่ เบื้องต้นจะใช้ผลิตเครื่องดื่มชาเขียวก่อน แล้วค่อยๆปรับเปลี่ยนไปผลิตเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ เนื่องจากเครื่องจักรใหม่สามารถใช้ผลิตเครื่องดื่มได้หลากหลาย เช่น กลุ่มเครื่องดื่มผสมนม กลุ่มเครื่องดื่มธัญพืช กลุ่มน้ำผลไม้
"เราคาดว่ายอดขายเราจะแตะ 1 หมื่นล้านบาทภายใน 2 ปีนับจากโรงงานใหม่เสร็จแน่นอน"นายตัน กล่าว
ด้านนายไพบูลย์ คุจารีวณิช Executive Vice President กล่าวว่า บริษัทคาดว่า โรงงานใหม่จะคืนทุนภายใน 4-5 ปี นับจากวันเริ่มผลิต และตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ IRR ประมาณ 16%
สำหรับเป้ายอดขายและรายได้ปีนี้จะเติบโต 20% จากปี 51 มาที่ 7.2 พันล้านบาทมีความเป็นไปได้แน่นอน หรือไม่ก็อาจจะสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ขณะที่อัตราการเติบโตของกำไรก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากเชื่อว่าสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ผ่านไปแล้ว เพราะขนาดครึ่งปีแรกที่มีปัจจัยกดดันมากมาย เรายังมียอดขายของอาหารและเครื่องดื่มเติบโต 20% ได้ตามเป้า และในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาร้านอาหารเพิ่มอีก 13 สาขา โดย 12 สาขาอยู่ระหว่างการตกแต่งสถานที่และจะทยอยเปิดบริการ เมื่อรวมกับช่วงครึ่งปีแรกที่เปิดไปแล้ว 7 สาขา รวมเป็นทั้งหมด 20 สาขา ด้วยงบลงทุน 200 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังการลงทุนใหญ่ครั้งนี้ อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อาจจะขยับเพิ่มเป็น 0.8 เท่า จาก 0.44 เท่าในปัจจุบัน เนื่องจากการลงทุนโรงงาน ที่ 3 มูลค่า 1,430 ล้านบาท แหล่งเงินทุนจะมาจากการกู้ยืมระยสั้น ประมาณ 30% ส่วนที่เหลือมาจากกระแสเงินสดของบริษัท
นายไพบูลย์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา Free Float ต่ำว่า บริษัทกำลังจะเจรจากับผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ ให้ขายหุ้น OISHI ออกมาเพื่อให้หุ้นกระจายหมุนเวียนในตลาดหลักทรัพย์บ้าง
ณ วันที่ 9 เม.ย.52 โครงสร้างผู้ถือหุ้น OISHI ประกอบด้วยผูถือหุ้นเพียง 5 ราย คือ บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ มีสัดส่วนการถือหุ้น OISHI ประมาณ 168,610,199 หุ้น คิดเป็น 89.93%, บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 6,997,300 หุ้น คิดเป็น 3.73%, นายตัน ภาสกรนที จำนวน 6,562,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.50%, UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED จำนวน 3,328,700 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.78%, MR.YUEH-CHIN CHIU จำนวน 1,241,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.66%