นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด(APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท คาร์ลตัน อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า คาร์ลตันฯ เตรียมจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ใน 2 ปีข้างหน้า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างทางการเงินให้สอดคล้องกับธุรกิจ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานและเงื่อนไขในการเข้าจดทะเบียน
บริษัท คาร์ลตัน อินเตอร์เนชั่นแนล ดำเนินธุรกิจให้บริการออกแบบวิศวกรรมการจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และก่อสร้างโรงงานแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพลังงานปิโตรเคมี ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานหลายโครงการ เช่น โครงการในอุตสาหกรรมด้านปิโตรเคมี
ในปี 51 บริษัทมีรายได้ประมาณ 220 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 7.3 ล้านบาท คาดว่าปีนี้น่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10%
นายสมภพ กล่าวต่อว่า บริษัท คาร์ลตันฯ ถือเป็นอีกบริษัทที่มีศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจนี้ แม้ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล้กก็มีศักยภาพในการดำเนินกิจการและสามารถรับงานโครงการที่มีมูลค่าระดับ 100 ล้านบาทได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะต้องสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างทางการเงินให้สามารถรองรับงานที่มีมูลค่าขนาดใหญ่ขึ้น โดยเบื้องต้นในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกำลังมองหากองทุนที่มีความสนใจในธุรกิจ และเห็นศักยภาพการเติบโตของบริษัทมาร่วมลงทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ 2 กองทุนให้เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 15% เพื่อเพิ่มทุนจดทะเบียนของคาร์ลตันฯ ให้สามารถรับงานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่กว่า 100 ล้านบาทได้ จากที่ปัจจุบันรับงานขนาดเล็กไม่ถึง 70 ล้านบาท
ด้านนายมาณพ พุทธรักษ์ ผู้จัดการ บริษัท คาร์ลตันฯ คาดว่าปีนี้กำไรจะเติบโตมากกว่าปีก่อนที่ 70 ล้านบาท แต่ในส่วนรายได้น่าจะใกล้เคียง 220 ล้านบาทในปีก่อน โดยในส่วนของกำไรที่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทเพิ่งได้รับงานสร้างและซ่อมถังน้ำมัน ซึ่งถือว่ามีมาร์จิ้นที่ดี ขณะเดียวกัน อยู่ระหว่างการประมูลงานเพิ่มอีก 200 ล้านบาท คาดว่าจะได้งานประมาณ 30%