นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ เชื่อว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันพรุ่งนี้จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน้อยมาก เพราะเป็นเรื่องที่นักลงทุนรับรู้แล้วและชินชากับเรื่องดังกล่าว แต่ปัจจัยที่จะกดดันตลาดหุ้นอยู่ที่ทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศมากกว่าและแนวทางในการแก้ปัญหาสถานการณ์ของสหรัฐฯ
แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการเมืองมีความเสี่ยงมากขึ้นและไม่อยากให้เปลี่ยนรัฐบาลบ่อยเพราะมีผลกระทบต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและขาดความต่อเนื่องแต่ถ้าหากจะให้คะแนนรัฐบาล 6 เดือนที่ผ่านมาให้ 7 จากเต็ม 10 แต่ก็ต้องดูว่างบฯที่จะใช้จะไปใช้ผลักดันอะไรและจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นได้มากแค่ไหน
ด้านนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า คงจะต้องติดตามการชุมนุมว่าจำนวนผู้ชุมนุมจะมากน้อยแค่ไหนหากมากก็จะกระทบได้บ้างรวมถึงเนื้อหาในการปราศรัยด้วยเพราะครั้งนี้เห็นว่าจะมีการโฟนอินซึ่งก็อาจจะเกิดความรุนแรงได้หลังจากที่ก่อนหน้านี้เหตุการณ์สงบไปแล้ว แต่การชุมนุมครั้งนี้นักลงทุนคงไม่ตกใจมากเพราะเป็นเรื่องเดิมๆ ซึ่งก็เชื่อว่ารัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ได้
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าประเทศไทยคงอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไปอีกระยะหนึ่งแต่นักลงทุนก็เข้าใจได้ แต่ผลกระทบต่อการลงทุนคงไม่มากเพราะไม่ใช่เรื่องใหม่