โบรกฯเชียร์"ซื้อ/ถือ"TSTH แนวโน้มราคาเหล็กกำลังฟื้นหลังผ่านจุดต่ำสุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 26, 2009 14:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์แนะ "ซื้อ/ซื้อเก็งกำไร/ซื้อเมื่ออ่อนตัว/ถือ"หุ้นบมจ.ทาทา สตีล(ประเทศไทย)หรือ TSTH หลังสถานการณ์ราคาเหล็กเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ความต้องการใช้จะเริ่มกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ความชัดเจนของโครงการรถไฟฟ้า รวมถึงโรงถลุงเหล็กจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือน ส.ค.52 นี้น่าจะมีส่วนช่วยผลักดันยอดขายและผลกำไรในอนาคต

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย
          บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย)     "ซื้อเมื่ออ่อนตัว"          1.80
          สถาบันวิจัยนครหลวงไทย       "ซื้อเก็งกำไร"           1.70
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส             "ซื้อ"              1.65
          บล.เอเชีย พลัส                 "ถือ"              1.59

นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ปรับราคาเหมาะสม TSTH ขึ้นเป็น 1.8 บาท จากเดิม 1.51 บาท จากกระแสหุ้นเหล็กสำคัญของโลกก็เข้าสู่ช่วงของการปรับตัวในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าราคาเหล็กในช่วงที่เหลือของปีจะฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่บริษัทจะมีกำลังการผลิตใหม่ของโรงถลุงเหล็กขนาดกำลังการผลิตน้ำเหล็ก 500,000 ตัน มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 3,800 ล้านบาท จะเริ่มเผชิญเชิงพาณิชย์ในเดือน ส.ค.นี้ จะมาเกื้อหนุน

"ราคาเหล็กจะฟื้นตั้งแต่ไตรมาส 3 นี้เป็นต้นไป หลังทำ Bottom ไปแล้ว เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำ คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ ในยุโรปบรรลุข้อตกลงราคาสินแร่เหล็กใหม่กับ บริษัท Rio Tinto ประเทศออสเตรเลีย สำหรับสัญญาระหว่าง เม.ย.52 - มี.ค.53 มีราคาปรับลดลงแค่ 33% น้อยกว่าราคาเหล็กที่ลดลงมากถึง 50-70%

ดีมานด์ความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างจีนเริ่มกลับมา ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีม่วง ที่จะเริ่มก่อสร้างในครึ่งปีหลังนี้ จะเพิ่มความต้องการเหล็กเท่ากับ 24,500 ตัน และ 163,300 ตัน ตามลำดับในระยะ 4-5 ปีข้างหน้า"นายสุรชัย กล่าว

ด้านผลการดำเนินงาน แม้ในไตรมาส 1/52 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.52 จะออกมาไม่ดี กำไรสุทธิลดลงมาที่ 80.93 ล้านบาท จาก 2,701.07 ล้านบาทในไตรมาส 1/51 เป็นผลมาจากปัจจัยกดดันเรื่องราคาเหล็กและเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมา แต่คิดว่าหลังจากนี้ไปจะดีขึ้นตามราคาเหล็กฟื้นตัว และมาตรการต่างๆ ของภาครัฐทำให้ความต้องการใช้มากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า

ปัจจุบัน ทาทาสตีล เป็นเจ้าตลาดธุรกิจนี้ในประเทศไทย มีส่วนแบ่งตลาดเกือบ 50% ขณะที่รายได้จากการส่งออกคิดเป็น 15% ของรายได้รวม

ด้านนักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยนครหลวงไทย กล่าวว่า ราคาเหล็กที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและมีความผันผวนลดลง จะหนุนกำไรสุทธิปี 52(เม.ย.52-มี.ค.53)กลับมาเติบโตโดดเด่น บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นขอมาตรฐานการขายเหล็กเส้นในอินเดีย (BIS)โดยหากบริษัทได้รับมาตรฐานดังกล่าว ซึ่งจะทราบผลเดือนหน้าทำให้สามารถส่งสินค้าภายใต้ยี่ห้อ TATA ไปขายในอินเดียใต้ที่มีกำลังซื้อในระดับสูง คาดว่าจะทำให้บริษัทสามารถขายเหล็กทรงยาวเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าเดือนละ 9 หมื่นตัน

สำหรับราคาเหล็กที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วคาดจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 16-20 บาท/ก.ก.ในช่วงปี 52 และจะปรับขึ้นเกินกว่า 20 บาท/กก. ปี 53 ที่เริ่มมีคำสั่งซื้อจากโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล

อนึ่ง คาดว่า อัตรากำไรขั้นต้น(GPM)มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจาก 3.73% ในปี 51-52 เป็น 13.15% ในปี 52-53 จากส่วนต่างระหว่างราคาขายและต้นทุนยังยืนสูงกว่า 7 บาท/กก.และส่งผลต่อเนื่องให้บริษัทมีกำไรสุทธิปี 52-53 เพิ่มขึ้นเป็น 1,526 ล้านบาท จาก 81 ล้านบาทในปี 51-52

แต่ทางด้านนายเทอดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส มองว่า ในระยะสั้นอาจจะยังไม่ฟื้นตัวอาจสร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้นได้ แต่เชื่อว่าจะเริ่มกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

ส่วนเรื่องโรงถลุงเหล็กคงจะยังไม่ได้ประโยชน์เท่าไหร่ เนื่องจากราคาถ่านโค้กซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักขยับขึ้นไปสูง ดังนั้น การประหยัดต้นทุนจากการมีโรงถลุงเหล็กอาจจะยังไม่ได้เห็นในปีนี้ แต่คงจะไปเห็นในปีหน้ามากกว่า ขณะที่สถานการณ์ราคาเหล็กเรามองว่าค่อนข้างทรงตัวอยู่ เพียงแค่รอดีมานด์กลับมา ซึ่งเราคาดว่าดีมานด์น่าจะกลับมาในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้

"เราคาดว่าปีนี้ TSTH อาจจะยังไม่ฟื้นชัดเจน ถ้าจะฟื้นเต็มที่คงต้องเป็นปีหน้า เพราะดีมานด์จะมาในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ อย่างไรก็ตาม เราคาดการณ์กำไรปี 52-53 (เม.ย.52-มี.ค.53) เราคาดว่ากำไรสุทธิจะดีกว่างวดปี 51-52 ซึ่งมีบันทึกรายการพิเศษเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการซื้อเศษเหล็กนำเข้า และเงินกู้ยืมระยะยาวเพิ่มขึ้น"นายเทอดศักดิ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ