Asia Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 26 มิ.ย. 2552

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 26, 2009 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันขยับขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางไต้หวันคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้

ดัชนีเวทเต็ดปิดปรับตัวขึ้น 5.95 จุด หรือ 0.09% แตะ 6,463.56 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดพุ่งขึ้นในวันนี้ ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขจีดีพีที่หดตัวน้อยเกินคาดของสหรัฐและการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังก่อนที่ทางการสหรัฐและญี่ปุ่นจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆในสัปดาห์นี้

ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดพุ่งขึ้น 81.31 จุด หรือ 0.83% แตะที่ 9,877.39 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ จากปัจจัยหนุนของนักลงทุนต่างชาติที่ส่งแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าผลประกอบการของภาคธุรกิจดังกล่าวจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3 ของปีนี้

ดัชนีคอมโพสิตเพิ่มขึ้น 1.8 จุด หรือ 0.13% แตะที่ระดับ 1,394.53 จุด หลังแกว่งตัวขึ้นลงสลับกันระหว่างแดนลบและแดนบวก ขณะที่ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 416.24 ล้านหุ้ มูลค่า 4.5 ล้านล้านวอน (3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาปิดในแดนบวกอีกครั้งในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดบวก 47.8 จุด หรือ 1.2% แตะ 3,903.8 จุด

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 3.16 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 2,928.12 จุด

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันนี้ หลังนักลงทุนเร่งซื้อหุ้นก่อนที่จะครบกำหนดส่งมอบสัญญาล่วงหน้าดัชนีฮั่งเส็งในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ในขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารจีนก็ดีดตัวจากอัตราการปล่อยกู้ที่แข็งแกร่งในเดือนมิ.ย.

ดัชนีฮั่งเส็งบวก 325.23 จุด หรือ 1.78% ปิดที่ 18,600.26 จุด มีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นแตะ 6.253 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (8.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ