ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 34.01 จุด หลังสหรัฐเผยอัตราการออมสูงกว่าตัวเลขใช้จ่าย

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday June 27, 2009 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากทางการสหรัฐรายงานว่าชาวอเมริกันมีเงินออมส่วนบุคคลมากขึ้น แต่มีตัวเลขการใช้จ่ายน้อยลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 34.01 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 8,438.39 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.36 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 918.90 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 8.68 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 1,838.22 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 2.3 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.2 พันล้านหุ้น

เอริค เทล นักวิเคราะห์จาก First Citizens Bank ในรัฐนอร์ธ แคโรไลนา กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราการออมส่วนบุคคลพุ่งขึ้นแตะระดับ 6.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี และรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 1.4% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% "อัตราการออมส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว แต่อาจทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าหากผู้บริโภคมีการออมมากกว่าการใช้จ่าย ก็อาจขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้" เอริค เทลกล่าว

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลหลังจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนเจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ คาดการณ์ว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% ซึ่งอาจทำให้สหรัฐต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2

"เศรษฐกิจในขณะนี้จำเป็นต้องใช้ยาที่แรงขึ้นเพราะอัตราว่างงานพุ่งสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผมคาดว่าการรีบาวด์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นสูงกว่าระดับ 10% เท่าที่ผมประเมินในตอนนี้ เศรษฐกิจยังไม่วกกลับมาสู่ช่วงขาขึ้น และขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อใดที่เศรษฐกิจจะไปถึงจุดนั้นได้" บัฟเฟตต์กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐมีประชากรตกงานราว 6 ล้านคนแล้วนับตั้งแต่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนธ.ค.ปีพ.ศ.2550 ส่วนอัตราว่างงานเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 9.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9.2% ขณะที่ประธานาธิบดีโอบามาคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% ภายในช่วงสิ้นปีนี้

ดัชนี S&P 500 หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1% หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่าอัตราการออมส่วนบุคคลของชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขการใช้จ่าย โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิลปิดลบ 1.2% หุ้นเทโซโรปิดลบ 1.9%

หุ้นธนาคารยูบีเอส เอจี ปิดร่วง 5.2% หลังจากยูบีเอส เอจี ซึ่เงป็นธนาคารยุโรปที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากวิกฤตการณ์สินเชื่อ ประกาศระดมทุนราว 3.8 พันล้านฟรังค์ หรือ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการขายหุ้นราว 293.3 ล้านหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบัน พร้อมกับคาดการณ์ว่าธนาคารอาจขาดทุนอีกในไตรมาสที่ 2


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ