ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการออมส่วนบุคคลที่สูงกว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวช้ากว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ลดลง 11.56 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 4,241.01 จุด
เดวิด โจนส์ นักวิเคราะห์จาก IG Index กล่าวว่า ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ แต่อัตราการออมส่วนบุคคลพุ่งขึ้นแตะระดับ 6.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ซึ่งนักลงทุนกังวลว่าอัตราการออมที่มีมากกว่าการใช้จ่าย อาจขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยว่า ระบบการเงินภายในประเทศยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับวิกฤตการณ์ระลอกใหม่ รวมถึงความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจจมปลักอยู่ในภาวะถดถอย เนื่องจากสถาบันการเงินในอังกฤษขาดทุนอย่างหนักเพราะถูกกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลก
หุ้นเอสเอบีมิลเลอร์ ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่อันดับสองของโลก ดิ่งลง 1.9% หุ้นเวิร์ลพูล คอร์ป ปิดร่วง 2.4% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปิดลบ 1.5%