ร.อ. กรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่อีก 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,000 ล้านบาท โดยพร้อมทยอยนำแบบบ้านซีรีส์ใหม่ 2009 เปิดตัวในไตรมาส 3 มีทั้งโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ จำนวน 3-4 โครงการ บริเวณทำเลรัชดา-รามอินทรา, เกษตรนวมินทร์ และ สาทร-ราชพฤกษ์
อย่างไรก็ดี แผนการพัฒนาโครงการของบริษัทฯแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยโครงการที่พักอาศัยยังคงให้น้ำหนักไปที่บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม-โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียม คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของรายได้จากการดำเนินงาน ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว ระดับราคา 4—25 ล้านบาท ทาวน์โฮม ระดับราคา 2—7 ล้านบาท คอนโดมิเนียม ระดับราคา 2—7 ล้านบาท
และ ส่วนที่ 2 ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า (Office Building) คิดเป็นสัดส่วน 20 % ตลอดจนการให้ความสำคัญกับการทำ CRM ในการสร้างความสำพันธ์ที่ดีต่อกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้บริษัทฯ มีความแตกต่างและมีคุณภาพที่ดี เป็นที่ต้องการและยอมรับของผู้บริโภคต่อไป
สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ ร.อ กรี กล่าวว่า ถือว่ามีสัญญาณในเชิงบวก เช่น การลดดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในฝั่งของผู้ซื้อและผู้ประกอบการ ที่จะทำให้ต้นทุนลดลงและเพิ่มกำลังซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯต้องหันมาให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุน การวิจัยตลาด ก่อนตัดสินใจลงทุนเพื่อเจาะให้ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และหากลยุทธ์ ส่งเสริมการตลาดและกลยุทธ์การขายใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภค และจากปัจจัยภายนอกดังกล่าวข้างต้น บริษัท ฯ จึงได้มีการวางกลยุทธ์ในการดำเนินงาน เพื่อให้รองรับการปรับเปลี่ยนของสภาพเศรษฐกิจโดยรวมและภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เปลี่ยนไป โดยแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2552 บริษัทจำเป็นต้องมีการบริหารงานที่ระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะการบริหารทุน ที่ดิน รายได้ และทำเล ตลอดจนการหาตลาดใหม่ ๆ
ทั้งนี้เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่ถึงกับรุนแรงเหมือนช่วงวิกฤติปี 2540 เพราะผู้ประกอบการต่างก็มีบทเรียนจากในอดีต ทำให้สามารถปรับยุทธศาสตร์ได้อย่างคล่องตัวตามสถานการณ์ และสามารถวางแผนได้ล่วงหน้าแม้ว่าต้นทุนวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันมีการปรับราคาสูงขึ้นก็ตาม