บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) ลงทุนช่วงปี 52-53 วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท ขยายห้างใหม่ ที่อุดรธานี, เชียงใหม่ และใช้ปรับปรุงที่ลาดพร้าวและ ปิ่นเกล้า ขณะที่การลงทุนในจีนคาดปีหน้าน่าจะได้ข้อสรุป พร้อมทั้ง เสนอขายหุ้น 1.2 พันล้านบาทภายในสัปดาห์นี้นำไปรีไฟแนนซ์ และปลายปีนี้จะขยายกองทุน CPNRF อีก 5-6 พันล้านบาท
นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ CPN เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยในปี 52-53 บริษัทจะใช้เงินลงทุนกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจไปยังหัวเมืองหลัก ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี ซึ่งคาดใชัเงินลงทุนประมาณ 5.3 พันล้านบาท ในการเข้าซื้อกิจการ และปรับปรุงโครงการ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของบริษัท โดยสาขานี้จะมีทั้งศูนย์การค้า โรงแรมและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ และในอนาคตบริษัทมีแผนขยายโครงการนี้ต่อเนื่องเนื่องจากมีที่ดินเหลืออยู่ ซึ่งมีทั้งหมด 53 ไร่ โดยมีแผนขยายโครงการเพื่อรองรับลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เวียดนาม เป็นต้น
"ที่อุดรฯถือว่าเป็นโครงการที่ไม่ได้เน้นลูกค้าในประเทศไทยอย่างเดียว เพราะอุดรฯห่างจากเวียงจันทร์ เพียง 70 กม. ซึ่งมีลูกค้าจากเวียงจันทร์ที่เดินทางผ่านจังหวัดอุดรฯจำนวนมาก และปลายปี 52 จะมีกีฬาซีแกมส์ ซึ่งเชื่อว่าจะเพิ่มยอดลูกค้าให้กับเซ็นทรัล และมองสาขาอุดรฯจะเป็น Gateway ของอินโดจีน" นายกอบชัย กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทจะลงทุนสร้างศูนย์การค้าแห่งที่ 2 ในจ.เชียงใหม่ บริเวณถนนเชียงใหม่ดอยสะเก็ด มูลค่าลงทุนกว่า 5 พันล้านบาท เนื่องจากเห็นศักยภาพของเมืองเชียงใหม่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่อันดับ 2 และหลังจากได้ไปเปิดห้างเซ็นทรัลเชียงใหม่แอร์พอร์ต ก็เห็นศักยภาพ และกำลังซื้อของคนในพื้นที่ จึงตัดสินใจเปิดศูนย์การค้าใหม่อีกแห่งที่อยู่คนละมุมเมืองเพื่อดึงลูกค้าที่ห่างไกลจากห้างเซ็นทรัลเชียงใหม่แอร์พอร์ต โดยห้างใหม่นี้มีพื้นที่กว่า 70 ไร่ และคาดว่าเปิดให้บริการไดในไตรมาส 4 ปี 54
สำหรับการปรับปรุงสาขาเดิม 2 แห่ง ที่ลาดพร้าว และปิ่นเกล้า โดยเตรียมงบไว้กวื่า 3 พันล้านบาท เนื่องจากเซ็นทรัลลาดพร้าวที่เพิ่งได้ต่อสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย และไม่ได้มีการปรับปรุงมากกว่า 10 ปี จึงจะปรับโฉมห้างครั้งใหญ๋ทั้งรูปลักษณ์ และบรรยากาศ ซึ่งจะทยอยปรับปรุงทีละส่วนเพื่อไม่ให้ต่อการค้าภายในศูนย์ ซึ่งกว่าจะปรับปรุงเสร็จจะเป็นช่วงกลางปี 54 ส่วนเซ็นทรัลปิ่นเกล้า จะเริ่มปรับปรุงพ.ย.52 และแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 53
นายกอบชัย กล่าวว่า การลงทุนในต่างประเทศ บริษัทมองว่าประเทศที่เป็นไปได้เข้าลงทุนยังคงเป็นประเทศจีน เพราะจีนมีศักยภาพ และมีความชัดเจนในการเจรจามากที่สุด แต่ปีนี้คงยังไม่มีข้อสรุปการลงทุน เพราะยังอยู่ในชั้นตอนเจรจา แต่คาดว่าปีหน้าคงจะได้ข้อสรุป ส่วนเวียดนาม และอินโดนีเซีย ยังเป็นพื้นที่ที่บริษัทให่ความสนใจและเป็นเป้าหมายในการลงทุน
ด้านนายนริศ เชยกลิ่น เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทจะมีการออกหุ้นกู้จำนวน 1.2 พันล้านบาท เพื่อนำไปรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่หมดอายุในช่วงปลายปีนี้ และปีนี้คงไม่มีแผนออกหุ้นกู้อีกแล้ว
แต่บริษัทยังคงแผนขยายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ CPNRF ในช่วงปลายปี 52 โดยจะขขยายอีก 5-6 พันล้านบาท และจะใช้สินทรัพย์ที่ ห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
นายนริศ เชื่อว่าในครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจน่าจะเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากภาครัฐจะมีการใช้งบประมาณใหม่ตั้งแต่ ต.ค. และยังมีเงินกู้ 8 แสนล้านบาท ที่จะทยอยออกมาใช้จ่าย จึงเชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ ธุรกิจของบริษัทจะได้รับผลดี และหวังว่า ภาวะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเข้าสู่ภาวะปกติ ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้