บมจ. แอปโซลูท อิมแพค (AIM) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้จากหุ้นละ 1.00 บาท เป็นมูลค่าหุ้ น ละ 0.10 บาท โดยบริษัท จะนำเสนอวาระนี้ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อ พิจารณาและอนุมัติต่อไป และให้แก้ไขจำนวนทุนจดทะเบียนเป็ฯ 280 ล้านบาท แบ่งเป็น 2,800 ล้านหุ้น
นอกจากนี้ บริษัทได้อนุมัติเพิ่มทนุจดทะเบียนเป็น 432 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 1,520 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตรา ไว้หุ้นละ 0.10 บาท โดยบริษัทจะนำเสนอวาระนี้ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติต่อไป
และมีมติอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 1,400 ล้านหน่วย เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยมีราคาเสนอขายหน่วยละเท่ากับ 0.01 บาท และและกำหนดราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 0.20 บาทต่อหุ้น
รวมทั้งมติอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิท ธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (ใบสำคัญ แสดงสิทธิ-ESOP) จำนวน 120 ล้านหน่วย เพื่อเสนอขายให้แก่กรรมการ และ/หรื อ พนักงานของบริษัท โดยไม่คิดมูลค่า และกำหนดราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดง สิทธิเท่ากับ 0.15 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ การออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับ การใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 1 และ ใบสำคัญแสดงสิทธิ-ESOP โดยผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการให้ถือเกินกว่าร้อยละ 5 ได้แก่ นายปริน ชนันทรานนท์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จำนวนที่ได้รับจัดสรร 20 ล้านหน่วย หรือคิดเป็น ร้อยละ 16.67 และ นางกนกวัลย์ วรรณบุตร กรรมการและกรรมการ ผู้จัดการ จำนวน 15 ล้านหน่วย คิดเป็นร้อยละ 12.50
บริษัทกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2552 ในวันที่ 14 สิงหาคม 2552 เวลา 9.00 น ทั้งนี้บริษัทกำหนดรายชื่อถือหุ้ นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2552 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 17 กรกฎาคม 2552
นายปริน ชนันทรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIM กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจอีกมากเพื่อสร้างรายได้และกำไรให้บริษัทฯ ขยายตัวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง จึงตัดสินใจระดมทุนโดยการออกวอร์แรนต์ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนในอนาคตขณะที่ผู้ถือหุ้นไม่ได้รับผลกระทบจากการไดลูทของราคาหุ้นในทันที
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ยังคงคาดว่ารายได้จะขยายตัว 30-40% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 220.33 ล้านบาท เพราะในช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจและมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีวันหยุดไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก ทำให้มั่นใจว่าจะผลักดันให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโตตามเป้าหมายได้ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะยังชะลอตัวและปัจจัยทางการเมืองที่ยังคงผันผวนก็ตาม เนื่องจากธุรกิจของบริษัทฯ เน้นจับกลุ่มลูกค้าประเภท Consumer Product ที่ยังคงมีกำลังซื้อและจำเป็นต้องใช้สื่อประเภทดิจิตอลในการโฆษณาและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ประกอบกับสื่อของบริษัทฯ ยังมีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเปรียบเทียบกับราคาสื่อโฆษณาต่างๆ ทั่วไป อีกทั้งสามารถเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงและมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและยอดขายของผู้ประกอบการด้วย จึงทำให้ได้รับความนิยมสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และมั่นใจว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ ยังผลักดันรายได้ให้ขยายตัวปีละ 30-40% ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้