(เพิ่มเติม) ครม.รับทราบแผนฟื้นฟู THAI กู้สั้น-ยาว-ไฟแนนซ์เครื่องบินใหม่รวม 5.05 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 30, 2009 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบแผนฟื้นฟูธุรกิจของ บมจ.การบินไทย (THAI) โดยแผนฟื้นฟูระยะเร่งด่วนมุ่งแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งจะมีแนวทางการจัดหาเงินกู้ รวมเป็นเงิน 50,450 ล้านบาท ได้แก่ เงินกู้ระยะสั้น ซึ่งบริษัทจะเจรจาต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือเปลี่ยนเป็นเงินกู้ระยะยาว มูลค่า 14,450 ล้านบาท และ เงินกู้ระยะยาว ซึ่งจะจัดหาแหล่งเงินกู้เพิ่มเติม หรือออกหุ้นกู้ หรือชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 20,000 ล้านบาท

ส่วนสัญญาเช่าทางการเงิน บริษัทจะจัดหาเงินกู้สำหรับเครื่องบิน A330 จำนวน 6 ลำ รวมมูลค่า 16,000 ล้านบาท

รวมทั้ง การบินไทยตั้งเป้าว่าในปี 52-54 จะสามารถยกระดับความสามารถในการทำกำไร มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อมราคา(EBITDA) ได้สูงสุดประมาณ 38,813 ล้านบาท , 45,136 ล้านบาท และ 46,201 ล้านบาท ตามลำดับ

แต่ในกรณีที่บริษัทได้วิเคราะห์ความอ่อนไหวหากเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมาก พบว่า จะทำกำไร (EBITDA)ได้ในปี 52-54 ได้ประมาณ 33,856 ล้านบาท, 38,185 ล้านบาท และ 38,816 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตามแผนฟื้นฟูธุรกิจเร่งด่วนเน้นรักษากิจการขนส่งผู้โดยสารเป็นอันดับแรก โดยบริษัทจะรักษาและเพิ่มคุณภาพรายได้ในปี 52 ให้ได้ระดับใกล้เคียงปี 51 โดยจะดำเนินการ 3 ด้านคือ ด้านราคา ด้านผลิตภัณฑ์ และด้านผลิตภัณฑ์เสริม

ด้านราคาบริษัทจะนำระบบใหม่มาใช้เพื่อปรับลดและเลิกค่านายหน้า , ปรับอัตราค่าธรรมเนียมน้ำมัน (Fuel Surcharge) ให้รวดเร็วตามความผันผวนของราคาน้ำมัน , ปรับปรุงระบะบบและเครื่องมือกระตุ้นการขาย, ทบทวนระบบการจัดสรรที่นั่ง เพิ่มสัดส่วสนการขายตรงโดยเฉพาะ Web Sales รวมทั้งเพิ่มประสิทธิผลของระบบกำหนดราคา ปรับราคาให้อยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่ง

ขณะที่ด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทจะปรับปรุงการใช้เครื่องบินที่มีอยู่ในเส้นทางเดียวกันให้มีความใกล้เคียงและสม่ำเสมอมากที่สุด เพื่อให้สามารถทดแทนกันได้ , การขยายเส้นทางบินและเที่ยวบินในประเทศ เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มรายได้ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมที่เกี่ยวเนื่องกับการโดยสารต่างๆ เช่น โรงแรม รถเช่า และ ประกันภัย และ การปรับปรุงโปรแกรม Royal Orchid Plus เพื่อดึงดูดลูกค้า

นอกจากนี้ ในปี 52 บริษัทมีเป้าหมายปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ต้นทุนน้ำมันและค่าเสื่อมราคา ประมาณ 10,000 ล้านบาท (ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในปี 51)และจะรักษาระดับค่าใช้จ่ายให้คงที่ไปอีกอย่างน้อย 2 ปี ได้แก่ การนำเครื่องบินใหม่ A330-300 เช้ามบินแทน A300-600, ปรับลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบิน ค่าล่วงเวลาของนักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน , เจรจาขอปรับลดค่าบริการภาคพื้นและบริการทางเทคนิคในสถานีทั้งในและต่างประเทศ, ลดค่านายหน้าจากการขายบัตรโดยสารและคาร์โก้, งดการขึ้นเงินเดือนและโปนัสปี 52 เป็นต้น

รวมทั้ง ปรับลดการลงทุนที่ไม่เร่งด่วน ไม่ก่อให้ประโยชน์ทางตรงต่อธุรกิจประมาณ 2,500 ล้านบาท เช่น โครงการขยายโรงซ่อม B747-400 จำนวน 1,000 ล้านบาท, โครงการสร้างศูนย์ดัดแปลงเครื่องบินขนส่งสินค้า จำนวน 236 ล้านบาท และขายสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็น จำนวน 1,000 ล้านบาท เป็นต้น

สำหรับแผนฟื้นฟูระยะต่อไป บริษัทจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว มี 5 ด้าน โดยจะดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์เครือข่ายการบินและฝูงบิน, การปรับโครงสร้างธุรกิจและโครงสร้างต้นทุน, การพัฒนาองค์กร บุคคลากรและวัฒนธรรม, การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการปรับโครงสร้างทางการเงินระยะยาว

อย่างไรก็ตาม บริษัทขอรับการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐ ซึ่งจะแป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดี และสร้างความมั่นใจต่อแผนฟื้นฟูธุรกิจต่อตลาดเงินตลาดทุน, อำนวยความสะดวกในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการให้คำแนะนำหรือสนับสนุนการจัดหาแหล่งเงินทุน ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถนำแผนฟื้นฟูสู่การปฏิบัติได้ผลสำเร็จ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ