ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านภาคการผลิตและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดปิดบวกไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานในวันพฤหัสบดีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 57.06 จุด หรือ 0.68% แตะที่ 8,504.06 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.01 จุด หรือ 0.44% แตะที่ 923.33 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 10.68 จุด หรือ 0.58% แตะที่ 1,845.72 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 950.1 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.11 พันล้านหุ้น
คริส จอห์นสัน นักวิเคราะห์จากบริษัท จอห์นสัน รีเสิร์ช กรุ๊ป กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักหลังจากสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงข้อมูลภาคการผลิตและภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ ส่วนที่จีนนั้น ดัชนีภาคการผลิตขยายตัวขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 4 แล้วในเดือนพ.ค. หลังจากรัฐบาลจีนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการปล่อยเงินกู้ที่สูงเป็นประวัติการณ์ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ โดยดัชนี PMI ของจีนขยายตัวขึ้นมาอยู่ที่ 53.2 ในเดือนมิ.ย. จากระดับพ.ค.ที่ 53.1 จุด ซึ่งตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 จุด บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคการผลิต
ไมเคิล เกรกอรี นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets กล่าวว่า "ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เริ่มมีเสถียรภาพากขึ้น และอาจเป็นแรงหนุนภาคการผลิตของสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ภาคเอกชนกำลังเพิ่มสต็อกสินค้าเนื่องจากดีมานด์ปรับตัวสูงขึ้น
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราว่างงานประจำเดือนมิ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมิ.ย.จะขยับขึ้น 0.2% แตะที่ 9.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.จะร่วงลง 350,000 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.ที่ลดลง 345,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลบเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมิ.ย.ร่วงลงสู่ระดับ 49.3 จุด จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 54.8 จุด ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ดัชนีจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 55.0 จุดในเดือนมิ.ย.
หุ้นเจนเนอรัล มิลส์ ปิดบวก 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นคราฟท์ ฟู๊ดส์ ปิดบวก 5%