บมจ.ไทยคม(THCOM)คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/52 ยังคงขาดทุนอยู่ แม้ว่าจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน(FX) แต่เชื่อว่าทั้งปีนี้จะพลิกเป็นกำไรได้ตามเป้า หลังจากการทำตลาด iPSTAR ได้ตามแผนงานที่วางไว้ โดยเฉพาะการเจรจากับรัฐบาลอินเดียที่ดำเนินการมานานก็มีสัญญาณที่ดีและน่าจะมีข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ จากนั้นก็จะสรุปการเจรจาในไต้หวันภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ iPSTAR ทำตลาดได้ครบทั้ง 14 ประเทศ
ประกอบกับยอดขายในจีนที่ค่อนข้างอืดนั้น ตอนนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากพันธมิตรเข้าควบรวมกิจการกับไชน่า เทเลคอม ทำให้ศักยภาพในการทำตลาดดีขึ้น
น.ส.ธันญภัสร์ ช่วยชู ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร THCOM เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/52 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและยังขาดทุนใกล้เคียงไตรมาส 1/52 แต่ทั้งปี 52 คาดว่าจะมีกำไรจากการที่บริษัทจะได้เซ็นสัญญาให้บริการดาวเทียม iPSTAR ครบทั้ง 14 ประเทศ โดยประเทศอินเดียคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ หรือประมาณไตรมาส 3/52 และที่ไต้หวันจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้เช่นเดียวกัน
"ถ้าเป็นอย่างที่ตั้งเป้าว่าจะสรุปสัญญาในอินเดียได้ภายในไตรมาส 3/52 เราก็อาจจะโชคดีมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3/52 ซึ่งเป็นความหวังของเรา แต่ถ้าไม่ได้ เราก็ยังเชื่อว่าปีนี้จะมีกำไร" ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร THCOM
ส่วนการทำตลาด iPSTAR ในจีน เชื่อว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น และตลาดจะเติบโตเร็ว เพราะไชน่าแซท ซึ่งเป็นพันธมิตรเดิม ได้ควบรวมกิจการกับไชน่าเทเลคอม ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าบริษัทสื่อสารอันดับหนึ่งของไทยถึง 4-5 เท่า ดังนั้น เชื่อว่าการทำตลาดในจีนจะเติบโตอย่างรวดเร็วและดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมาที่ทำตลาดได้ค่อนข้างช้า
น.ส.ธันญภัสร์ กล่าวว่า สำหรับราคาหุ้น THCOM ในวันนี้ที่ปรับเพิ่มขึ้นสูง น่าจะเป็นผลจากการที่หุ้นหลุดจาก Turnover List และบัญชี cash balance ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้ราคาปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่วันนี้ปรับเพิ่มขึ้นสูงเพราะอาจจะเห็นว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทยังเติบโตดี และจะมีรายได้เสริมเข้ามาจากต่างประเทศ
ประกอบกับ มูลค่าทางบัญชี(Book Value)ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 14-15 บาท และมูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 5 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายในตลาดปัจจุบันถือว่ายังต่ำอยู่
เช้านี้(12.02 น.)ราคาหุ้น THCOM ปรับเพิ่ม 3.77% หรือ บวก 0.20 บาท มาอยู่ที่ 5.50 บาท โดยราคาสูงสุดที่ 5.70 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 1 เดือน