นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการสายงานการตลาดและงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.อนุมัติรับใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับหุ้นของบมจ.ปตท.(PTT)ออกโดย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยจะเริ่มซื้อขายในหมวดใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants) ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "PTT13CA"
PTT13CA เป็นตราสารที่แสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (Call Warrant) ของ PTT มีอายุ 6 เดือน โดยจะครบกำหนดในเดือนธันวาคม 2552 ทั้งนี้ ผู้ถือ PTT13CA จำนวน 5 หน่วยจะสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้น PTT ได้ 1 หุ้น โดยหากผู้ลงทุนมีการใช้สิทธิ บล. เคจีไอ จะชำระเงินสดส่วนต่าง(Cash Settlement) ระหว่างราคาหุ้น PTT และราคาใช้สิทธิให้แทน โดยไม่มีการส่งมอบหุ้น
ในการซื้อขาย PTT13CA นั้น ผู้ลงทุนสามารถใช้บัญชีซื้อขายหุ้นที่มีอยู่เพื่อซื้อขาย DW ได้เหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไปและบล. เคจีไอจะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องสำหรับการซื้อขาย PTT13CA ด้วย เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่าจะซื้อขายได้เมื่อต้องการ ทั้งนี้ บล. เคจีไอ ได้มีการเปิดเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ระหว่างวันที่ 22-30 มิ.ย.ที่ผ่านมา
PTT13CA เป็น DW ที่ออกโดยภาคเอกชนรุ่นแรก เพราะในอดีตเคยมีเพียงการซื้อขาย DW ที่ออกโดยกระทรวงการคลังเท่านั้น ซึ่งหากเทียบกับตลาดต่างประเทศพบว่า DW มีการซื้อขายกันมานานและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีปริมาณการซื้อขายประมาณร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 20 ของปริมาณการซื้อขายหุ้น
"PTT13CA จะเป็นทางเลือกหนึ่งของการลงทุนในหลักทรัพย์ที่น่าจะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน เนื่องจากใช้เงินทุนน้อย และสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนได้สูง หากคาดการณ์ทิศทางตลาดได้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรตระหนักว่าการซื้อขาย DW มีความเสี่ยงสูง โดยผลขาดทุนสูงสุดจะเท่ากับเงินที่จ่ายซื้อ DW ไปทั้งจำนวน นอกจากนี้ ผู้ลงทุนใน DW ควรพิจารณาความมั่นคงของบริษัทผู้ออก DW เพราะผู้ออกเป็นผู้รับผิดชอบการใช้สิทธิของผู้ลงทุน ซึ่งการใช้สิทธินี้เป็นธุรกรรมนอกตลาดหลักทรัพย์ และไม่มีการ รับประกันการปฏิบัติตามภาระผูกพันของผู้ออกแต่อย่างใด ดังนั้น ผู้ลงทุนที่จะซื้อขาย DW ควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจลักษณะและความเสี่ยงให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน" นางสาวโสภาวดี กล่าวเสริม