นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่า ในระยะนี้อาจมีเม็ดเงินลงทุนบางส่วนโยกจากตลาดหุ้นเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล แต่เชื่อว่าคงไม่มากถึงขั้นส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ขณะที่มองว่าการมีพันธบัตรรัฐบาลออกมาสู่ตลาดมากขึ้นน่าจะช่วยเกื้อหนุนซึ่งกันและกันกับตลาดหุ้นมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ตลท.ยังเชื่อว่าสภาพคล่องและปริมาณการลงทุนในตลาดทุนจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากผลของมาตรการของรัฐบาลที่จะช่วยกระตุ้นให้การเติบโตของเศรษฐกิจดึขึ้น แต่รัฐบาลก็ควรที่จะลงทุนโดยเร็วเช่นกัน ซึ่ง ตลท.ก็ตั้งความหวังที่จะเห็นสภาพคล่องและมูลค่าการซื้อขายในครึ่งปีหลังดีเหมือนกับไตรมาส 2/52 ที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 21,000 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 20,000 ล้านบาท
สำหรับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่มีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้นั้น นางภัทรียา กล่าวว่า น่าจะเป็นแค่ผลกระทบในลักษณะ panic ช่วงสั้นเท่านั้น เพราะเชื่อว่าในที่สุดรัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าจะมีผลกระทบกับกลุ่มธุรกิจด้านการเดินทางและท่องเที่ยวบ้าง แต่ ณ ปัจจุบันก็ยังไม่เห็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มดังกล่าวได้รับผลกระทบมากนัก
นางภัทรียา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเข้าตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบมจ.ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม (TIES) โดยคาดว่าหน่วยงานกำกับดูแลของตลาดจะมีการขอข้อมูลการซื้อขายหุ้นตัวนี้ไปแล้ว ส่วนการที่ตลาดกำหนดให้สมาชิกต้องให้ลูกค้าซื้อหุ้น TIES และ TIES-W1 วางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนการซื้อ(Cash Balance) เป็นไปตามที่กำหนด เป็นเรื่องปกติ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุนในระดับหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการเตือนนักลงทุน
แต่ทั้งนี้ก็ยังมองว่าความเคลื่อนไหวของหุ้นเก็งกำไรในช่วงที่ผ่านมายังเป็นการซื้อขายตามปกติ ซึ่งนักลงทุนที่จะเข้าลงทุนก็ต้องติดตามข่าวของบริษัทอย่างใกล้ชิดและติดตามปริมาณการซื้อขาย แต่ในด้านการดูแลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์นั้นคงไม่ต้องเป็นห่วงเพราะตลท.ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว