นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ที่ปรึกษาด้านตลาดทองคำ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX กล่าวถึงการปรับตัวลงของราคาทองคำในช่วงนี้ว่า จากการที่ระดับราคาทองคำในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ผันผวนและปรับตัวลดลงถึง 6-7% นี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลจากแรงกดดันหลัง IMF ออกมาคาดการณ์เศรษฐกิจโลกว่าจะหดตัวมากกว่าที่คาดไว้เดิมโดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัว1.4% จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 1.3%
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากการประกาศตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินที่เพิ่ม ขึ้นเกินคาด และจากข่าวที่คณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า(ซีเอฟทีซี)ของสหรัฐ เตรียมพิจารณาเข้าควบคุมการเก็งกำไรในตลาดพลังงานโลก โดยมุ่งเป้าแก้ปัญหาความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อสร้างเสถียรภาพแก่ตลาดเงิน เป็นส่วนสำคัญที่กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดน้ำมัน
ปัจจัยด้านค่าเงินยังกดดันให้ราคาทองคำในประเทศลดต่ำลงจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่า ตามทิศทางตลาดฯในภูมิภาค ซึ่งค่าเงินบาท (Off-shore) ปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ 8 ก.ค. 2552 ที่ 34.06/ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า เคลื่อนไหวในกรอบ 34.05-34.09 นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายนของประเทศไทย รวมทั้งการประกาศตัวเลขดุลการค้าเดือน พฤษภาคมของสหรัฐ ในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้
“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเอง และเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยในยามเกิดวิกฤตการณ์การเงิน ประกอบกับความต้องการทองคำมีมากกว่าปริมาณความต้องการทองคำที่มีอยู่ แนวโน้มราคาทองคำระยะกลางถึงยาว ยังน่าสนใจ เมื่อระดับราคาลดลงเช่นนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการทยอยเข้าซื้อทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงให้แก่พอร์ตการลงทุน ระดับราคานี้ควรเข้าซื้อได้แล้ว"นายธนพิศาล กล่าว