ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 4.76 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 10, 2009 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) เนื่องจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนห้นกล่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มธนาคาร หลังจากบริษัท อัลโค อิงค์ รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดและได้แสดงความเชื่อมั่นว่ามาตรกรกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐจะช่วยหนุนผลประกอบการของอัลโค อิงค์ ให้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทอื่นๆจะดีเกินคาดเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 4.76 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 8,183.17 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.12 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 882.68 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 5.38 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 1,752.55 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 1,812 ต่อ 1,178 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.89 พันล้านหุ้น

ทอมมี วิลเลียมส์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท Williams Financial Advisors กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์หลังจากบริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ลดลงเพียง 26 เซนต์ต่อหุ้น ไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงถึง 38 เซนต์ต่อหุ้น

คลอส เคลนเฟล์ด ซีอีโอบริษัท อัลโค อิงค์ เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐและจีนจะช่วยให้ดีมานด์โลหะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากพอที่จะช่วยให้กระแสเงินทุนหมุนเวียนของอัลโคกระเตื้องขึ้นได้อีกครั้ง โดยเมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลจีนประกาศหนุนโครงการสาธารณูปโภคและกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค

นอกจากนี้ อัลโคยังได้รับประโยชน์จากการที่รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหัฐ รวมถึงการสนับสนุนให้ผู้บริโภคซื้อรถยนต์เพื่อช่วยกระตุ้นดีมานด์อลูมิเนียม โดยคาดว่าบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ และโตโยต้า มอเตอร์ จะเป็นกำลังสำคัญในการดันยอดผลิตรถยนต์ในสหรัฐให้สูงขึ้นอีก 1 ล้านคันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลง 52,000 ราย สู่ระดับ 565,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 605,000 ราย

อย่าไงรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ระมัดระวังการซื้อขาย และหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่ายอดการกู้ยืมเงินของชาวอเมริกันในเดือนพ.ค.ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.5% ต่อปี หรือลดลง 3.2 พันล้านดอลลาร์ 3.2 พันล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ค. ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเตรียมเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย. และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ