(เพิ่มเติม) ฟิทช์จัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวหุ้นกู้ใหม่ปตท.ที่ 'AAA(tha)'

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 13, 2009 14:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ชุดใหม่มูลค่า 35,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 ช่วงอายุ คือ 3 ปี, 7 ปี และ 15 ปี ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ที่ 'AAA(tha)' โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน ชำระคืนเงินกู้ที่ครบอายุ และเป็นเงินลงทุน

การจัดอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของปตท.ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในประเทศไทย ความสำคัญของปตท.ในการสนองนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับความมั่นคงทางด้านพลังงานในประเทศไทย รวมถึงการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนากิจการพลังงานของประเทศ ฟิทช์ให้ความเห็นว่าปตท.ยังคงเป็นผู้ดำเนินการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ การจัดหาและการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียวในประเทศไทย เนื่องจากปตท.มีเครือข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ครอบคลุมพื้นที่การใช้ก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียวในประเทศ และมีสัญญาเช่าระยะยาวในส่วนของท่อส่งก๊าซที่โอนคืนให้กับกระทรวงการคลัง รวมถึงการมีสัญญาการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติระยะยาวกับผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ทุกรายในประเทศ ปตท.ยังเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยโดยผ่านการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. สผ. โดยมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมและปริมาณการผลิตปิโตรเลียมสูงเป็นอันดับสองในประเทศไทย นอกจากนี้ปตท.ยังเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในประเทศไทยเกือบทั้งหมด และเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และธุรกิจน้ำมัน

อันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงคณะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัท ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเป็นธุรกิจหลักของปตท.ในการสร้างกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) และยังสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ค่อนข้างคงที่ โดยเป็นผลมาจากสัญญาการจัดจำหน่ายระยะยาวซึ่งมีการกำหนดปริมาณการซื้อขั้นต่ำจากคู่สัญญาในลักษณะ take-or-pay รวมถึงความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนการขายให้แก่ลูกค้า และความผันผวนที่น้อยกว่าของราคาก๊าซธรรมชาติเมื่อเทียบกับราคาน้ำมัน

ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตของปตท. ถูกลดทอนลงจากปัจจัยเสี่ยงที่บริษัทต้องเผชิญกับความผันผวนที่สูงของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แผนการลงทุนในอนาคตของปตท.ที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงความเสี่ยงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎระเบียบและทางด้านการเมือง และความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยนในระดับหนึ่ง ปตท.มีแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2552 ถึง 2556) ในโครงการต่างๆ รวมมูลค่า 2.29 แสนล้านบาท การลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่องประกอบกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทที่น่าจะอ่อนตัวลงในปี 2552 ตามสภาพเศรษฐกิจน่าจะทำให้หนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินของปตท.เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสถานะทางการเงินและสภาพคล่องของบริษัทน่าจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ และสอดคล้องกับนโยบายทางการเงินของบริษัทที่จะรักษาอัตราส่วนหนี้สินสุทธิให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.0 เท่าของ EBITDA

ในปี 2551 ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (EBITDAR) รวม 156,133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.0% จากปี 2550 เนื่องจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของ EBITDAR จากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท. สผ.) และธุรกิจก๊าซธรรมชาติ แต่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 EBITDAR ของบริษัทมีจำนวน 26,360 ล้านบาท ลดลง 28.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลมาจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก แม้ว่าปตท.มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานลดลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 ประกอบกับหนี้สินสุทธิของบริษัทที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่าย้อนหลัง 12 เดือน (Last-twelve-month (LTM) adjusted net debt to EBITDAR) และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงานย้อนหลัง 12 เดือน (LTM funds from operations adjusted net leverage) ของบริษัทยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 1.3 เท่า และ 1.5 เท่า ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ