โบรกฯแนะเทรดดิ้ง KTB สินเชื่อโตเด่น ได้ประโยชน์จากสินเชื่อภาครัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 13, 2009 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกฯ                 คำแนะนำ                    ราคาเป้าหมาย (บาท)
          บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)   Trading                     8.60
          บล.กสิกรไทย            ซื้อ                          9.50
          บล.เอเซีย พลัส          hold/อ่อนตัวซื่อ
          บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)  outperform                  9.80
          บล.ซิกโก้               ซื้อเก็งกำไร                   8.60

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นธนาคารกรุงไทย (KTB) พื้นฐานดีแต่กำไรไตรมาส 2/52 มองว่าอิงกับสำรองเป็นหลักเพราะคิดว่าไตรมาสนี้น่าจะ book สำรองสูงกว่าไตรมาสแรกที่ book ประมาณ 1.5 พันล้านบาท ปีที่แล่ว book ประมาณ 3 พันล้านบาท ถ้า book 3 พันล้านบาท performance ก็อาจจะไม่ค่อยสวย แต่มองทั้งปีไม่ได้กระทบอะไรเพราะทำไว้ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม มองสินเชื่อปีนี้น่าจะขยายตัวได้ดีตามเรื่องสินเชื่อของรัฐบาลและเป็นตัวเดียวที่น่าจะเห็นสินเชื่อโตได้แบบ double-digit ส่วนกำไรทั้งปีคาดไว้ที่ 11,140 ล้านบาท ราคาเป้าหมาย 8.60 บาท มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้น

"อยากจะรอดูว่าส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) กระทบกระเทือนแค่ไหนเพราะการปล่อยกู้กับภาครัฐมาร์จินต่ำมาก ถ้ามาร์จินไม่ได้ต่ำมากก็อาจจะเป้าหมายขึ้น ตอนนี้มี upside 5% กว่าๆ ก็มีแนวโน้มอาจจะปรับเรื่องสินเชื่อเพิ่มขึ้นอีก เทรดดิ้งได้ ก็น่าจะวิ่งไล่หา book ที่ 9.60 บาท" น.ส.ศศิกร กล่าว

ส่วนที่รัฐออกพันธบัตรออกมาก็ยังไม่เพียงพอยังไงรัฐก็ยังต้องกู้อยู่ดีเพราะเงินที่รัฐต้องการเป็นแสนล้านบาท พันธบัตรรอบนี้ 5 หมื่นล้านบาท เพิ่มไปอีก 3 หมื่นล้านบาทเป็น 8 หมื่นล้านบาท ยังเหลือเงินกู้แบงก์อีกเป็นแสนล้านบาท และกู้แบงก์ล็อตแรกมองไว้ 2 แสนล้านบาท การออกพันธบัตรเยอะขึ้นก็ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไร และ KTB น่าจะได้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จาก 2 แสนล้านบาท เพียงแต่ยังไม่ทราบว่าจะชัดเจนเมื่อไร

"ล็อตแรกกรุงไทยน่าจะได้ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นไปตาม size ของแบงก์ KTB กับ BBL ได้เยอะสุด นอกนั้นก็ไล่ลงมาแต่ทุกคนก็ได้ระดับเป็นหมื่นล้านบาทเช่นกัน" น.ส.ศศิกร กล่าว

นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า KTB พื้นฐานดีถึงแม้ราคาหุ้นจะลงมาแรงแต่พื้นฐานยังโอเคอยู่น่าจะได้ประโยชน์จากสินเชื่อภาครัฐ คาดสินเชื่อครึ่งปีหลังน่าจะโตได้ดีและครึ่งปีแรกสินเชื่อของ KTB เองก็โตโดดเด่นกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อื่นๆ และยังได้เรื่องรายได้ของค่าธรรมเนียมที่มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นอีกเยอะด้วย

ส่วนเรื่องเงินกองทุนก็ค่าเฉลี่ยไม่มีอะไรที่เป็นความเสี่ยง เงินกองทุนก็อยู่ในระดับที่ใช้ได้ ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/52 ก็น่าจะออกมาดีทั้ง qoq และ yoy สาเหตุหลักมาจากสินเชื่อที่โตค่อนข้างจะโดดเด่น แนะซื้อให้ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท

นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/52 อาจจะออกมาไม่ค่อยดี สาเหตุหลักเนื่องจาก NIM ที่ชะลอตัวเนื่องจากว่าช่วงที่ผ่านมามีการปรับลดดอกเบี้ย ประเด็นที่ 2 เรื่องการตั้งสำรองหนี้ที่มีปัญหาเพราะช่วงที่เศรษฐกิจไม่มีแบงก์ส่วนใหญ่ก็ต้องหันมาตั้งสำรองมาก

KTB ราคานี้น่าจะ HOLD ได้ ถ้าจะซื้อรอให้ราคาลงมาดีกว่า ถ้ามาตรการภาครัฐออกมาตัวนี้น่าจะได้ประโยชน์ ส่วนกำไรทั้งปีของ KTB คาดอยู่ที่ประมาณ 11,131 ล้านบาท และ ปี 53 คาดว่ากำไร 11,500 กว่าล้านบาท กำไรจะค่อนข้างทรง PE ตอนนี้ประมาณ 8-9 เท่า ขึ้นมาค่อนข้างเร็วทำให้ราคาหุ้นแบงก์ตอนนี้ไปไม่ได้ค่อยได้เท่าไร จึงแนะนำอ่อนตัวซื้อ

นายวรวัฒน์ สายสุพัฒน์ผล นักวิเคราะห์ จาก บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ยังแนะนำเป็น outperform เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ช่วงนี้มองตลาดอ่อนตัวล่วงหน้าการประกาศงบฯและเศรษฐกิจที่ไม่ดีน่าจะใช้โอกาสนี้ในการดูหุ้นเพราะมองรอบในการปรับลงครั้งนี้ช่วงเดือน 7-8 ที่ข้อมูลต่างๆ ไม่ดี น่าจะเป็นโอกาสในการเข้าเก็บหุ้นที่จะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

KTB ยังให้ outperform ราคาเป้าหมาย 9.80 บาท สินเชื่อยังขยายตัวดีเมื่อเทียบกับในกลุ่ม ไตรมาส 2 จะมีดี 2 แบงก์ คือ KTB กับ BAY ถ้าโดยรวมทั้งปีเป็นอารมณ์ที่ว่าไม่ได้แย่ไปกว่านี้แล้ว ไตรมาส 2 ก็ยังไม่ดีต่อ ไตรมาส 3 ก็เริ่มทรงๆ ได้ไม่ได้บอกว่าจะต้องฟื้นเลย ไตรมาส 4 น่าจะเริ่มเห็นสัญญาณของการ pick up ในแง่ของสินเชื่อ ในแง่มาร์จิน น่าจะเริ่มทรงและเริ่มโอเคได้ แต่กว่าจะเริ่มเห็นชัดน่าจะไตรมาส 4 เป็นเช่นนี้ทั้งกลุ่ม เพราะฉะนั้นตอนนี้ถ้าราคาหุ้นลงมาพร้อมกับภาวะตลาดที่ไม่ดีก็น่าจะเป็นโอกาสในการเริ่มเข้าไปทยอยดูหุ้นโดยเฉพาะหุ้นแบงก์เพราะจะเห็นการฟื้นตัวไตรมาส 4 ส่วนสินเชื่อภาครัฐ KTB น่าจะได้เยอะกว่าคนอื่นแต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเข้ามาแต่ถึงยังไม่เข้ามาก็เยอะกว่าแบงก์อื่นอยู่แล้วเพราะเป็นแบงก์ที่ใกล้มือรัฐบาล

บล.ซิกโก้ แนะ"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเป้าหมาย 8.60 บาท การขยายตัวของสินเชื่อที่เติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มแบงก์ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับ KTB ยังได้ประโยชน์จากนโยบายกู้เงินในประเทศของภาครัฐฯ ซึ่งมองว่าสินเชื่อจากภาครัฐฯผลักดันให้สินเชื่อใน 2Q09E เติบโตอย่างโดดเด่น โดยภาพรวมของสินเชื่อใน 5M09A มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.5% YTD ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในกลุ่มแบงก์ (ไม่รวม TISCO) ขณะที่มีการปรับการเติบโตสินเชื่อรวมใน FY09E ขึ้นเป็น 10% YoY จากเดิมที่คาดไว้ที่ 5% YoY เนื่องจาก KTB จะได้รับดีจากสินเชื่อภาครัฐฯและรัฐวิสาหกิจวงเงิน 2 แสนลบ. โดย KTB ประมูลมาได้ 5 หมื่นลบ. ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้มีการเบิกใช้

ขณะที่ในด้านของเงินสำรองต่อ NPL ใน 1Q09A อยู่ในระดับต่ำเพียง 43% ซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่มแบงก์ ทำให้มองว่า KTB มีความเสี่ยงที่จะต้องตั้งสำรองอีกจำนวนมากใน FY09E ทั้งนี้คาดว่า KTB จะมีการตั้งสำรองจำนวน 12,000 ลบ. เพิ่มขึ้น 12.0% YoY


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ