ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากโกลด์แมน แซคส์ สถาบันการเงินรายใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลให้ดาวโจนส์เคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวันและปิดบวกเพียงเล็กน้อย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 27.81 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 8,359.49 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.79 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 905.84 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 6.52 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 1,799.73 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่เพียง 979 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 3 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.91 พันล้านหุ้น
เคร็ก เพ็คแฮม นักวิเคราะห์จากบริษัท Jefferies & Co. กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวัน ต่อมาตลาดเริ่มดีดตัวขึ้นสู่แดนบวกเมื่อโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยผลกำไรไตรมาสสองสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์และอันเดอร์ไรท์ที่เข้มแข็ง โดยธนาคารรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ มีกำไร 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.93 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดือนเม.ย. - มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.09 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.58 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่ากำไร 1.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ผลกำไรไตรมาส 2/2552 ของโกลด์แมน แซคส์ ที่ระดับ 3.54 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ซีอีโอ ลอยด์ แบลงก์ไฟน์ เคยสร้างประวัติศาสตร์ให้โกลด์แมน แซคส์ ครองตำแหน่งบริษัทที่จ่ายเงินเดือนสูงสุดในวอลล์สตรีท ก่อนที่วิกฤตการเงินในปีที่แล้วทำให้สถานการณ์พลิกผัน โดยเขาต้องยอมรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล และเผชิญผลขาดทุนรายไตรมาสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเมื่อปีพ.ศ.2542 อย่างไรก็ตาม ปีนี้ โกลด์แมน แซคส์ แก้เกมด้วยการออกหุ้นใหม่ และเก็บเกี่ยวค่าธรรมเนียมการขายหุ้นและหุ้นกู้ จนสามารถมีเงินจ่ายหนี้คืนกระทรวงการคลังได้ 1 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะที่บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์สัน รายงานผลประกอบการลดลง 3.5% แต่ก็ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทอื่นๆ โดยบริษัทที่คาดว่าจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้คือ บริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริค บริษัท ไอบีเอ็ม บริษัท อินเทล คอร์ป และซิตี้กรุ๊ป
สหรัฐเผยยอดขาดดุลงบประมาณสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก โดยตัวเลขขาดดุลมหาศาลดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลได้ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเป็นจำนวนมากแก่สถาบันทางการเงินที่ประสบปัญหา นอกจากนี้ รายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ร่วงลง และการใช้งบประมาณเพื่อจ่ายสวัสดิการผู้ว่างงานก็มีส่วนที่ทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐบานปลายด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ปิดบวก 22 เซนต์ แตะที่ 149.66 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของสถาบันการเงินรายอื่นๆ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, แบงค์ ออฟ อเมริกา และซิตี้กรุ๊ป
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดบวก 51 เซนต์ แตะที่ 58.23 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นซีทีไอ กรุ๊ป ปิดพุ่ง 19.3% หลังจากมีข่าวว่าบริษัท ซีทีไอกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้เพื่อการพาณิชย์รายใหญ่ของสหรัฐกำลังเจรจาขอความช่วยเหลือฉุกเฉินจากรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องในบริษัท