TISCO เล็งซื้อพอร์ตสินเชื่อเพิ่มหลักพันลบ.กำลังเจรจา 1-2 รายสรุป H2/52

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 15, 2009 15:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารทิสโก้อยู่ระหว่างเจรจาที่จะซื้อพอร์ตสินเชื่อเพิ่ม 1-2 ราย หลังจากที่ได้ซื้อพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จากบริษัท จีเอ็มเอซี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ จีแมค(GMAC) 1.75 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เม็ดเงินในหลักพันล้านบาทใกล้เคียงกับ GMAC น่าจะได้ข้อสรุปในครึ่งหลังปีนี้

การซื้อพอร์ตเพิ่มดังกล่าวถือเป็นจังหวะที่ดี ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายจำเป็นที่จะต้องขายธุรกิจออก และสืบเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง ขณะที่จะส่งผลดีต่อบริษัททำให้มีอัตราการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 15-20% สัดส่วนหลักยังคงมาจากสินเชื่อเช่าซื้อกว่า 75%

"ในครึ่งปีแรกสินเชื่อโตแล้ว 11.4% และยังได้จีแมคเข้ามาเพิ่มอีก จึงเชื่อว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่น่าจะยาก และไหนจะผลดีจากการที่เราปรับกลยุทธ์ที่เน้นขยายฐานลูกค้ารายย่อยทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝาก" นายปลิว กล่าว

ด้านนางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการอำนวยการ TISCO กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(สเปรด)ในสิ้นปีอยู่ที่ 4.5-4.9% ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับระบบที่อยู่ในระดับ 3% เนื่องจากสินเชื่อส่วนใหญ่ที่ปล่อยกู้ไปเป็นสินเชื่อระยะยาว ประกอบกับ ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง

แต่อย่างไรก็ตาม หากภาวะดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นก็เป็นไปได้ที่สเปรดจะปรับลดลงบ้าง แต่จะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 3% เนื่องจากธนาคารมีลูกค้าเช่าซื้อรายย่อยมาก ซึ่งสินเชื่อประเภทนี้มีสเปรดค่อนข้างดี

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะรักษาไว้ในระดับ 3% จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/52 อยู่ที่ 2.9% แม้ว่าเศรษฐกิจหดตัวจะทำให้ NPL เพิ่มขึ้นบ่าง แต่ธนาคารก็จะใช้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ การติดตามชำระหนี้ และการตัดจำหน่ายหนี้สูญที่รัดกุม เพื่อทำใหห้ NPL ไม่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับการที่ธนาคารได้มีการระบบการจัดการความเสี่ยงเข้าสู่เกณฑ์ IRB ซึ่งจะเป็นการตั้งเผื่อไว้ใน 12 เดือนข้างหน้า

นางอรนุช กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2/52 ผลประกอบการของธนาคารทิสโก้อาจจะได้รับผลกระทบจากการตั้งสำรองสินทรัพย์รอการขาย (NPA) ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 400 กว่าล้านบาท เนื่องจาก TISCO ตัดสินใจชะลอการจำหน่าย NPA มูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท ออกไปเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม เพราะการขาย NPA ในช่วงภาวะเศรษฐกิจจะทำให้ได้ราคาไม่ดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ