แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการต่อรองราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่มีนายชัยสิทธ์ คุรุรัตน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นประธาน จะเจรจาต่อรองราคากับเอกชนในสัญญาที่ 3 กับกลุ่มพีเออาร์จอยท์เวนเจอร์ได้เสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะต่อรองได้มากกว่า 12% จากที่เอกชนเสนอราคาต่ำสุดที่ 6,399 ล้านบาท
กลุ่มพีเออาร์จอยท์เวนเจอร์ ประกอบด้วยบมจ. แอสคอน คอนสตรัคชั่น (ASCON) ,บมจ. เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) และบริษัท รวมนครก่อสร้าง
"สัญญา 3 ทางคณะกรรมการฯเขาบอกมาว่าจะคุยได้จบภายในอาทิตย์นี้ ซึ่งคิดว่าลดลงสัดส่วนใกล้เคียงกับสัญญา 1 และสัญญา 2 หรือมากกว่า 12% ซึ่งสัญญา 3 ลดลงได้มากกว่าสัญญาอื่นเพราะการก่อสร้างง่ายกว่า" แหล่งข่าวกล่าว
อนึ่ง สัญญาที่ 3 เป็นงานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถซึ่งมีพื้นที่รองรับการก่อสร้างไว้แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ ทาง รฟม.ได้เจรจากับ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ได้ราคาปรับลดเหลือประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท จากที่บริษัทเสนอราคาต่ำสุดที่ 15,320 ล่านบาท
ส่วนสัญญา 1 นั้น รฟม.ได้เจรจาต่อรองกับบมจ.ช.การช่าง (CK) ที่เสนอราคาต่ำสุดมาเหลือ 1.48 หมื่นล้านบาท จากที่เสนอมา 16,724 ล้านบาท
ด้านนายชูเกียรติ โพธยานุวัตร ผู้ว่าการ รฟม.เชื่อว่าหลังจากที่ได้มีการต่อรองเจรจาทั้ง 3 สัญญา จะทำให้วงเงินการก่อสร้างงานโยธา ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื้อ อยู่ในกรอบประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท และเมื่อรวมกับระบบวางราง อีก 4 พันล้านบาท รวมแล้วยังอยู่ในกรอบที่ครม.อนุมัติไว้ที่ 36,055 ล้านบาท
โดยในวันที่ 22 ก.ค. รฟม.เตรียมเสนอให้คณะกรมการ รฟม.อนุมัติผลการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ สัญญาที่ 2 และ สัญญาที่ 3 จากนั้นส่งให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอให้ครม.อนุมัติทั้ง 3 สัญญา โดยในกรณีสัญญา 2 และ สัญญา 3 ต้องรอองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) อนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ประมาณเดือนต.ค. ขณะที่ สัญญาที่ 1 คาดว่าจะลงนามกับผู้รับเหมาได้ในเดือนส.ค.นี้ หลังจากเริ่มก่อสร้างได้
นายชูเกียรติ ยังกล่าวว่า เงินกู้ยืมจากไจก้าเพื่อใช้ในงานวางราง จำนวน 4 พันล้านบาท ทางรฟม.ได้ส่งเรื่องไปยังไจก้าแล้ว และคาดว่าจะได้รับอนุมัติเงินกู้ราวเดือนก.ย. หลังจากอีก 2 เดือนจะเปิดประกวดราคาได้ต่อไป