ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่หดตัวรุนแรงเหมือนที่มีการประเมินไว้เบื้องต้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความคิดเห็นที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจ และหลังจากบริษัท อินเทล คอร์ป รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังคงรับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของโกลด์แมน แซคส์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 256.72 จุด หรือ 3.1% แตะที่ 8,616.21 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 26.84 จุด หรือ 2.96% แตะที่ 932.68 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 63.17 จุด หรือ 3.51% แตะที่ 1,862.90 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.37 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.53 พันล้านหุ้น
แมทธิว คอเฟอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Federated Clover Investment Advisors กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กสดใสขึ้นนับตั้งแต่โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยผลกำไรไตรมาสสองสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์และอันเดอร์ไรท์ที่ดีขึ้น โดยโกลด์แมน แซคส์มีกำไร 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.93 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดือนเม.ย. - มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่ากำไร 1.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้
ส่วนเมื่อคืนนี้ตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่อินเทล คอร์ป รายงานผลประกอบการดีกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ด้วยกำไรสุทธิ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสที่ 2 แม้ว่าเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาอินเทลจะถูกคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป สั่งปรับเงินจำนวนมากว่า 1 พันล้านยูโรจากกรณีต่อต้านการแข่งขัน อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสที่ 2 อินเทลมีรายได้ทั้งสิ้น 8 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเมื่อปีก่อนที่ 9.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดคอมพิวเตอร์พีซีที่แข็งแกร่ง
จอห์น บอทแฮม นักวิเคราะห์จากอาวีว่า อินเวสเตอร์ ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของอินเทลคือสัญญาณบ่งชี้ถึงสิ่งที่ตลาดกำลังจับตามอง ซึ่งนั่นสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจรอดพ้นจากจุดต่ำสุดและเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว ดังนั้น นักลงทุนจึงเริ่มมีความหวังในตลาดหุ้นที่กำลังมีเสถียรภาพ
นักลงทุนคลายความกังวลมากขึ้นเมื่อเฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความมั่นในในทิศทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฟดเชื่อว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 1-1.5% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 1.3-2% อย่างไรก็ตาม เฟดคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10%
นอกจากนี้ ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายหวาง ยง ผู้เชี่ยวชาญจากธนาครกลางจีนแนะนำให้รัฐบาลจีนเดินหน้าซื้อพันธบัตรสหรัฐอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และระบุว่าควรรักษาระดับการถือครองพันธบัตรดังกล่าวให้สูงกว่าเมื่อปีที่แล้ว
นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของสถาบันการเงินรายอื่นๆ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, แบงค์ ออฟ อเมริกา และซิตี้กรุ๊ป
ทั้งนี้ หุ้นอินเทลปิดพุ่ง 7.3% และดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ที่ตลาด PHLX พุ่ง 4.4% ส่วนหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ปิดบวก 3.1%