ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนที่บริษัท กูเกิล อิงค์ และอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ คอร์ป (ไอบีเอ็ม) จะรายงานผลประกอบการ โดยนักลงทุนเชื่อมั่นว่าบริษัทเหล่านี้จะมีผลประกอบการที่ดีเกินคาดเหมือนกับบริษัท อินเทล คอร์ป ที่เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งไปก่อนหน้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 95.61 จุด หรือ 1.1% แตะที่ 8,711.82 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 8.06 จุด หรือ 0.9% แตะที่ 940.74 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 22.13 จุด หรือ 1.2% แตะที่ 1,885.03 ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.เป็นต้นมา
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.2 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันพุธที่ 1.4 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
แดน เดมิง นักวิเคราะห์จากบริษัท Strutland Equities ในเมืองชิคาโก กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า "หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้นแข็งแกร่งและหนุนดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าผลประกอบการของไอบีเอ็มและกูเกิลจะออกมาดีเหมือนกับอินเทล คอร์ป ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะเมื่อตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ ทั้งกูเกิลและไอบีเอ็มได้รายงานผลประกอบการที่เหนือการคาดการณ์"
อินเทล คอร์ป รายงานผลประกอบการดีกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ด้วยกำไรสุทธิ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสที่ 2 แม้ว่าเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาอินเทลจะถูกคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป สั่งปรับเงินจำนวนมากว่า 1 พันล้านยูโรจากกรณีต่อต้านการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม อินเทลมีรายได้ทั้งสิ้น 8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสอง ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเมื่อปีก่อนที่ 9.4 พันล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดคอมพิวเตอร์พีซีที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ที่รายงานผลกำไรไตรมาสสอง เพิ่มขึ้น 36% สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจวาณิชธนกิจที่แข็งแกร่ง โดยผลกำไรสุทธิไตรมาสสองอยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 28 เซนต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากระดับ 2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 53 เซนต์ในปีก่อน ขณะที่นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น ได้คาดการณ์ไว้ที่ 5 เซนต์ต่อหุ้น
การเปิดเผยผลประกอบการของเจพีมอร์แกนมีขึ้นหลังจากที่วานนี้ โกลด์แมน แซคส์ ธนาคารอันดับ 5 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ ได้เปิดเผยผลกำไร 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.93 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดือนเม.ย. - มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.09 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.58 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเหนือกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นเดียวกัน
หุ้นกูเกิลปิดบวก 1% หุ้นไอบีเอ็มปิดพุ่ง 3.2% ส่วนหุ้นเจพีมอร์แกนปิดลบ 13 เซนต์ ปิดที่ 36.13 ดอลลาร์