นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บมจ. แสนสิริ (SIRI) กล่าวว่า บริษัทจะบุกลงทุนต่างประเทศ โดยเริ่มจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเป็นแห่งแรก ซึ่ง SIRI จะเข้าลงทุนซื้อโครงการอาคารที่อยู่อาศัยและนำมาพัฒนาเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการด้วยการปรับปรุงใหม่ มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท
โครงการดังกล่าวเป็นอาคารชุดที่ตั้งอยู่บนถนน Elvaston ย่าน High Street Kensington กลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นย่านที่อยู่ใน Conservation Area และเป็นย่านที่แพงที่สุดในลอนดอน ตัวอาคารจะเป็นอาคารชุด 6 ยูนิต ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 60-160 ตร.ม.ราคาเริ่มต้นประมาณ 60-160 ล้านบาท (1.16-2.85 ล้านปอนด์) พร้อมเปิดขายในช่วงเดือนเมษายน 53 โดยจะเปิดขายที่ประเทศไทยเท่านั้น
"โครงการนี้ถือเป็นโครงการนำร่องสำหรับ SIRI ในการบุกเบิกตลาดต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะว่าเรายังใช้ฐานลูกค้ากลุ่มเดิม และ SIRI ยังคงวางเป้าหมายที่กลุ่มเป้าหมายคนไทยเป็นหลัก"นายเศรษฐา กล่าว
SIRI ได้วางแผนและศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ของต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอังกฤษมาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว โดยมีหลายสาเหตุด้วยกันที่เลือกลงทุนในอังกฤษก่อน ประการแรก ณ ช่วงเวลานี้ตลาดอสังหาฯ ในอังกฤษอยู่ในช่วงซบเซา เป็นการเอื้อต่อผู้ประกอบการที่มีกำลังทุนและความเข้าใจในตลาดที่จะเข้าไปทำธุรกรรมซื้อ-ขายที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะใจกลางกรุงลอนดอนที่ความต้องการที่อยู่อาศัยชั้นดีของผู้บริโภคยังมีมาก
ขณะที่โครงการที่เกิดใหม่ก็มีน้อยด้วยข้อจำกัดทางกฏหมายของประเทศอังกฤษ ทำให้เรามองเห็นช่องว่างของตลาดตรงนี้ในการเข้าไปซื้อโครงการและปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยและทำให้คุณภาพดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาส และตลาดใหม่ๆ สำหรับการลงทุน
สำหรับการบุกไปสู่ตลาดต่างประเทศในประเทศอื่นๆ อีกนั้น ยังคงเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย และกำลังศึกษาประเทศอื่นๆ ทั้งในย่านเอเชีย และยุโรป โดยได้จัดตั้งทีมงานสำหรับดูแลงานด้านต่างประเทศเพื่อศึกษาประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอีกด้วย โดยได้วางเป้าหมายการเติบโตสำหรับตลาดต่างประเทศ สามารถทำรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10%ภายใน 3 ปี