นักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องจนถึงสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทเอกชนจะออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ว่า หลังจากโกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, อินเทล คอร์ป และอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (ไอบีเอ็ม) รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งไปแล้วก่อนหน้านี้ และช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักตลอดสัปดาห์
เจฟฟรีย์ เคลนท็อป นักวิเคราะห์จาก LPL Financial กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของบริษัทที่จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสองในสัปดาห์นี้ รวมถึงบริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (เอเม็กซ์), โบอิ้ง โค, อเมซอน ดอทคอม อิงค์, แอปเปิ้ล อิงค์, โคคา-โคลา, อีเบย์ อิงค์, เปปซี่ โค และสตาร์บั๊คส์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติพุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ธนาคารอันดับ 5 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ ได้เปิดเผยผลกำไร 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.93 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดือนเม.ย. - มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.09 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.58 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเหนือกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นเดียวกัน
เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ที่รายงานผลกำไรไตรมาสสอง เพิ่มขึ้น 36% สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจวาณิชธนกิจที่แข็งแกร่ง โดยผลกำไรสุทธิไตรมาสสองอยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 28 เซนต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากระดับ 2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 53 เซนต์ในปีก่อน ขณะที่นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น ได้คาดการณ์ไว้ที่ 5 เซนต์ต่อหุ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดู เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะแถลงมุมมองเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันอังคารและวันพุธนี้ โดยนักลงทุนคาดหวังว่าเบอร์นันเก้จะส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสอง หลังจากมีผู้เชี่ยวชาญหลายคน รวมถึงวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนเจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ระบุว่าสหรัฐจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 เนื่องจากอัตราว่างงานมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง