นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทุนธนชาต(TCAP)เปิดเผยว่า ธนาคารธนชาตจะเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ในวันที่ 20-23 ก.ค.นี้ เพื่อเป็นการรองรับแผนการขยายตัวทางธุรกิจ
หุ้นกู้ด้อยสิทธินี้แบ่งจำหน่ายเป็น 2 ชุด ชุดแรกอายุ 10 ปี มูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 3,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่1 ถึงปีที่ 5 จ่าย 5.25% ปีที่ 6 ถึงปีที่ 10 จ่าย 5.50% ชุดที่สองอายุ 15 ปี มูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 1,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 ถึงปีที่ 5 จ่าย 5.25% ปีที่ 6 ถึงปีที่ 10 จ่าย 6.00% ปีที่ 10 ถึงปีที่ 15 จ่าย 6.50% ทั้งนี้หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวนี้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ A- โดย บริษัททริสเรทติ้ง จำกัด
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 52 ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,934 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,157 ล้านบาท หรือ 65.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 1,114 ล้านบาท หรือ 18.7% จากการขยายตัวของสินเชื่อและการปรับตัวสูงขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อ (Loan Spread) จาก 4.1% เป็น 4.5% ประกอบกับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 3,886 ล้านบาท หรือ 60.3% และจากการขายหุ้นธนาคารธนชาตให้กับสโกเทียแบงก์ รวมถึงค่าธรรมเนียมการรับประกันภัย และประกันชีวิต
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/52 แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นใน TBANK ลดลงจาก 75% เหลือ 51% แต่ TCAP ยังมีกำไรสุทธิ 744 ล้านบาท ลดลงเพียง 17 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 783 ล้านบาท จากการปรับตัวสูงขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อ (Loan Spread) จาก 4.2% เป็น 4.8% อีกทั้งรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 868 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัทในกลุ่มทั้ง ธุรกิจประกันภัย และ ธุรกิจหลักทรัพย์
"กำไร 6 เดือนแรกปีนี้โตขึ้นมาก เพราะส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย (Spread) ปรับตัวดีขึ้น จากต้นทุนทางการเงิน (cost of fund) ที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และบริษัทในกลุ่มก็ทำผลงานได้อยู่ในเกณฑ์ดี อีกทั้ง TCAP ยังมีกำไรจากการขายหุ้นธนาคารธนชาต ให้กับสโกเทียแบงก์อีกด้วย ส่วนในไตรมาสที่ 2 ถึงแม้ว่า TCAP จะถือหุ้นใน ธนาคารธนชาต ลดลงจาก 75% เมื่อปีที่ผ่านมา เหลือ 51% และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่ TCAP ในไตรมาส 2/52 ยังสามารถทำกำไรได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ปีก่อน นี่แสดงให้เห็นว่า การที่สัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารธนชาตลดลง แต่เค้กก้อนใหญ่ขึ้น ธนาคารธนชาตมีแนวโน้มในการทำกำไรได้ดีขึ้น"นายศุภเดช กล่าว