ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงบริษัท แคทเทอร์พิลลาร์ และแอปเปิ้ล นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการแสดงความคิดเห็นในด้านบวกต่อเศรษฐกิจของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลงสหรัฐ (เฟด)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 67.79 จุด หรือ 0.77% แตะที่ 8,915.94 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.45 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 954.58 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 6.91 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 1,916.20 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดของปีนี้
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.21 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 8 ต่อ 7 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.28 พันล้านหุ้น
อิริก ธอร์น นักวิเคราะห์จากบริษัท Bryn Mawr Trust Co. กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักและบวกต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในทิศทางเศรษฐกิจ หลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับผลประกอบการของแคทเทอร์พิลลาร์, แอปเปิล และเมิร์ค แอนด์ โค
เฟดสาขาชิคาโกเปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐอ่อนแอน้อยลงในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนีบ่งชี้การผลิตแข็งแกร่งขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับภาวะถดถอย โดยดัชนีกิจกรรมทั่วประเทศอยู่ที่ -1.80 จุดในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก -2.30 จุด ในเดือนพ.ค. และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2008
ขณะที่ ABC News รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขยับขึ้นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ก.ค. แต่ความวิตกเกี่ยวกับการจ้างงานและราคา บ้านที่ลดลงยังคงถ่วงความเชื่อมั่นอยู่ในแดนลบ โดยดัชนี Consumer Comfort Index เพิ่มขึ้นสู่ระดับ -50 จุด ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จากระดับ -51 จุดในสัปดาห์ก่อนหน้า
หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ปิดพุ่ง 7.7% หลังจากมีรายงานว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐและตลาดสินเชื่อที่ฟื้นตัวขึ้นช่วยให้ยอดขายอุปกรณ์เพื่อการก่อสร้างของแคทเทอร์พิลลาร์ฟื้นตัวขึ้นด้วย โดยบริษัทรายงานว่าผลกำไรไตรมาสสองอยู่ที่ระดับ 72 เซนต์ต่อหุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะอยู่ที่ 20 เซนต์ต่อหุ้น
หุ้นแอปเปิลปิดบวก 2.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรที่แข็งแกร่งเกินคาด หุ้นเอ็กซอนโมบิล ปิดบวก 2.2% เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 64.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ ขณะที่หุ้นเชฟรอน คอร์ป ปิดบวก 61 เซนต์ แตะที่ 66.25 ดอลลาร์