นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีการปรับแผนการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับการฟื่นฟูกิจการ โดยได้ศึกษาการลดต้นทุนน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังให้ได้ 2-3% จากมูลค่าการใช้น้ำมัน กว่า 2 หมื่นล้านบาทในครึ่งปีหลัง โดยทั้งปีคาดว่า บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายน้ำมันประมาณกว่า 5 หมื่นล้านบาท
และคาดหวังในครึ่งปีหลัง อัตราขนส่งผู้โดยสาร (Cabin Factor)จะอยู่ที 70-75% เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น จากที่ครึ่งปีแรกตั้งเป้าไว้ 70% ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเกิดการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009
"ครึ่งปีหลัง บอร์ดมั่นใจว่า Cabin Factor จะไม่ต่ำกว่า 72% และเชื่อว่าการเดินทางจะกลับมาดีขึ้น เพราะผู้โดยสารยุโรปก็ไม่ได้ลดลง แต่ยอมรับว่า ครึ่งปีแรกกระทบจากผู้โดยสารเอเชียที่ลดการเดินทาง แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังสถานการณ์จะคลี่คลาย และหากลดค่าใช้จ่ายน้ำมันได้อีก 2-3% เชื่อว่าจะสามารถทำ EBITDA ได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ" ประธานกรรมการ THAI
สำหรับการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 6 ลำ ชณะนี้ได้ขอยืดขยายเวลาการรับมอบลำแรกไปเป็นเดือนธ.ค. ปี 55 จากปี 53 เพื่อให้สอดคล้องกับการครบกำหนดการใช้งานเครื่องบินโบอิ้ง 747 และสอดคล้องกับธุรกิจการบินที่จะฟื้นตัวในช่วงดังกล่าว โดยการบินไทยไม่ต้องเสียค่าปรับ และยังได้รับค่าปรับที่แอร์บัสไม่สามารถส่งมอบเครื่องบินตามกำหนด
"สัญญาไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะหากยกเลิกเราก็ต้องเสียค่าปรับมาก และการบินไทยเอง ก็มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องบินใหม่ เพื่อทดแทนโบอิ้ง 747 ที่จะปลดระวาง และเส้นทางบินยุโรป มีการกำหนดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนบนน่านฟ้า ซึ่ง A380 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์" นายอำพน กล่าว
นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันนี้ โดยได้รับข้อมูลและแผนฟื่นฟูกิจการ เพื่อเตรียมพร้อมรับตำแหน่งในเดือนก.ย.52