นายวิทูร สุริยวนากุล บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีความมั่นใจต่อการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากก่อนหน้านี้ที่ได้มีการเลื่อนออกไป เนื่องจากภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนกลางเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นจังหวะที่ดี ซึ่งเม็ดเงินที่ได้จาการะดมทุนจะใช้ในการขยายสาขาในปี 53 จำนวน 4 สาขา ส่วนปีนี้ที่จะขยาย 2 สาขา คือ ราชบุรี นครสวรรค์ เม็ดเงินลงทุนรวม 600 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ในปีนี้มีสาขารวม 9 สาขา ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 20% ต่อปีจากปีก่อนที่มีรายได้ 4,001 ล้านบาท และยังเป็นการเติบโตจากสาขาเดิมที่มีอยู่ 7 สาขา คือ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ระยอง ชลบุรี นครปฐม
ทั้งนี้ การขยายสาขาขณะนี้ได้มีการเจรจาและเตรียมพร้อมที่จะสร้างสาขาที่เมืองทองธานี ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ 140 ไร่ จากขนาดปกติซึ่งใช้พื้นที่ประมาณ 30 ไร่ คาดว่าจะเห็นการเปิดสาขาเมืองทองฯ ในช่วงไตรมาส 1/53 รองรับความต้องการที่มากขึ้น ประกอบกับจะเป็นการรุกตลาดกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งเชื่อว่าสาขาเมืองทองฯจะส่งผลให้ผลประกอบการเติบโตเท่าตัวตั้งแต่ปี 53 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันก็จะมีการเปิดสาขาที่ 2 ในจ.ขอนแก่น แต่จะลดขนาดพื้นที่ลงเหลือ 1.2 หมื่นตารางเมตร จากเดิมประมาณ 2.6-2.8 หมื่นตารางเมตร เพื่อเป็นการเสริมความต้องการภายในพื้นที่ดังกล่าว
การขยายสาขาใหม่ๆ จะช่วยให้บริษัทขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น
"หลังจากที่ผมหายไป จังหวะนี้น่าจะเป็นโอกาสในการกลับมา และการฟื้นตัวของธุรกิจภายใต้ธุรกิจโมเดิร์นเทรด ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอ และภายใต้พื้นฐานของหุ้น ไม่น่าจะทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง ส่วนการจัดสรรหุ้นนั้นคงจะต้องมีการหารือกับ บล.กิมเอ็ง และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซึ่งเป็นแกนนำในการรับประกันและจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของบมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์"นายวิทูรกล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า คาดว่าจะสามารถเปิดการจองหุ้นในวันที่ 10,11 และ 13 ส.ค.นี้ โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 260 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท ซึ่งหลังการกระจายหุ้นแล้วน บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์จะมีทุนจดทะเบียน 960 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีทุนชำระแล้ว 700 ล้านบาท